วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

สองตายายวอนผู้ใจบุญช่วยหลานพิการและช่วยหางานให้ทำ



ช่วยสนับสนุน HCTV จะได้มีข่าวอย่างนี้ ให้ชมต่อไป
ติดต่อสนับสนุน โทร 0-3231-0262

สองตายายวอนผู้ใจบุญช่วยหลานพิการและช่วยหางานให้ทำ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 309 หมู่ 3 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี มีสองตายายที่ต้องเลี้ยงหลานวัย 22 ที่พิการแขนขาลีบ โดยที่ทั้งตาและยายนั้นก็มีรายได้เพียงเล็กน้อยจากการรับจ้างเย็บผ้า นอกจากนี้บ้านที่เคยอยู่ก็จะต้องถูกไล่ที่เพราะจะมีการตัดถนนผ่านบ้าน ทำให้ได้รับความลำบาก หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าว จึงได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวเก่า ๆอยู่ในซอยแคบ ๆ และก็พบกับนายนิเดช วงศ์จำปา อายุ 58 ปี และนางเพ็ญจันทร์ วงศ์จำปาอายุ 58 ปี โดยสองตายายกำลังทำการป้อนน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับนายจารุเนตร พุกไชยนาม หรือ บอมส์ อายุ 22 ปี ซึ่งนอนอยู่บนเตียง ด้วยสภาพร่างกายที่ซูบผอม แขนขาลีบ

โดยนางเพ็ญจันทร์ ผู้เป็นยายของนายจารุเนตร ได้เล่าให้ฟังว่า นายจารุเนตรนั้นเป็นหลานที่เกิดกับลูกสาวของตน ซึ่งเมื่อเกิดมาได้อายุ 1 ปี ทั้งพ่อและแม่ของนายจารุเนตรก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ ภาระในการเลี้ยงดูหลานจึงตกเป็นของตากับยาย ซึ่งในช่วงที่เกิดมานั้นนายจารุเนตร ก็มีสภาพร่างกายปกติ แต่ต่อมาแขนและขาก็เริ่มอ่อนแรง และลีบลงไป ตากับยายได้พยายามที่พาหลานไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ แต่ก็ไม่หายสุดท้ายก็ต้องมานั่งดูแลหลานพิการกันเอง โดยตานั้นมีอาชีพรับจ้างขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง แต่เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา มือเริ่มสั่น จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลพบว่าเป็นโรคพาร์กินสัน เมื่อขี่รถจักรยานยนต์พาลูกค้าไปส่งตามที่ต่างๆ และพาลูกค้าไปรถล้ม 2 ครั้งเพราะมือสั่นมากขึ้น ทำให้ไม่มีใครมาจ้าง และก็ไม่ได้ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอีก ต้องกลับมาเลี้ยงหลานที่บ้านไม่มีใครจ้างไปทำงาน

ส่วนยายก็รับจ้างปะซ่อมเย็บเสื้อผ้า มีรายได้ไม่แน่นอน ถ้ามีคนนำเสื้อผ้ามาให้ซ่อมก็มีรายได้ 15-20 บาท ต่อตัว บางวันก็ไม่มีเลย ทำให้รายได้นั้นก็จะมีแค่เดือนละ 500 บาท จากเงินช่วยเหลือผู้พิการของหลานชาย บางวันตากับยายนั้นก็ต้องอดเพื่อให้หลานชายได้กิน ซึ่งการที่ยายจะออกไปหางานทำนอกบ้านนั้นก็ไปไม่ได้เพราะเป็นห่วงหลานชาย เนื่องจากตานั้นมือสั่นมากจนทำให้หยิบจับอะไรไม่ค่อยได้ จึงต้องทนอยู่แบบอดบ้างอิ่มบ้างต่อไป และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีเจ้าหน้าที่มาทำการรังวัดที่ดินที่ปลูกบ้านอยู่ โดยบอกว่าจะต้องตัดถนนผ่านบ้านหลังนี้ ก็คงจะต้องย้ายออกเพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นที่สาธารณะ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ยายเพ็ญจันทร์เลยวอนให้ผู้ใจบุญช่วยดูแลหลานชายซึ่งยังไม่รู้ว่าตากับยายนั้นจะอยู่ดูแลหลานชายไปได้นานแค่ไหน หรืออาจจะช่วยหางานมาให้ทำที่บ้านเพื่อจะได้มีรายได้มาช่วยดูแลหลาน ส่วนเรื่องที่อยู่อาศัยนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร



ภาพ/ข่าว กาญจนา สิมมา
21/04/54

ช่วยสนับสนุน HCTV จะได้มีข่าวอย่างนี้ ให้ชมต่อไป
ติดต่อสนับสนุน โทร 0-3231-0262

ไม่มีความคิดเห็น: