วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

นักโทษเรือนจำกลางราชบุรีก่อจลาจล ผลตาย 2 เจ็บอีกนับไม่ถ้วน



ช่วยสนับสนุน HCTV จะได้มีข่าวอย่างนี้ ให้ชมต่อไป
ติดต่อสนับสนุน โทร 0-3231-0262

นักโทษเรือนจำกลางราชบุรีก่อจลาจล ผลตาย 2 เจ็บอีกนับไม่ถ้วน

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 17 ก.พ. 54 เจ้าหน้าที่ห้องวิทยุของสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งจากเรือนจำกลางราชบุรี ว่า ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุนักโทษก่อจลาจลภายในเรือนจำ ภายหลังรับแจ้ง พ.ต.อ.อาคเนย์ แดงด้อมยุทธ์ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วย อส.และเจ้าหน้าที่มูลนิธิราชานุสรณ์กว่า 100 นาย เข้าควบคุมสถานการณ์ แต่เนื่องจากกลุ่มของนักโทษที่ก่อจลาจลในแดน 4 นั้นมีกว่า 100 คน เจ้าหน้าที่ของกรมราชฑัณฑ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี่ยกล่อมให้นักโทษที่กำลังขว้างปาข้าวของรวมทั้งขวดน้ำใส่เจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายรายได้หยุดและให้ขึ้นเรือนนอน

แต่มีนักโทษชายกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นหัวโจกในการก่อจลาจลในครั้งนี้ประมาณ 40 คน ยังไม่ยอมที่จะขึ้นเรือนนอนและพยายามที่จะใช้อาวุธมีดที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเองเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ จนทำให้เจ้าหน้าที่ราชฑัณฑ์ต้องตัดสินใจหยุดกลุ่มนักโทษเหล่านี้ด้วยอาวุธปืน จนทำให้มีนักโทษเสียชีวิตทันที 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนักโทษชายเดชะ จรสุข อายุ 32 ปี นักโทษคดียาเสพติดที่ถูกส่งตัวมาจากเรือนจำคลองเปรม และนักโทษชายจืด เกิดศรีเล็ก อายุ 31 ปี นักโทษในคดียาเสพติด และสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ซึ่งใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยมี พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายครรลอง ยุทธชัย ปลัดจังหวัดราชบุรี และนายสมบูรณ์ ศิริเวช นายอำเภอเมือง เข้าควบคุมสถานการณ์ด้วย

จากการสอบสวนในเบื้องต้นนั้น นายสุรชัย พุ่มแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี ได้เปิดเผยว่า สาเหตุนั้นเริ่มมาจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของเรือนจำไปตรวจพบว่า รั้วลวดหนามด้านหลังของแดน 4 นั้น ถูกตัดขาด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตั้งกรรมการสืบสวนหาคนที่มาตัดรั้วลวดหนามให้ได้ภายใน 3 วัน และในช่วงเวลา 16.00 น. ของวันเดียวกันซึ่งเป็นเวลาที่นักโทษจะต้องขึ้นเรือนนอน แต่กลับไม่ยอมขึ้น และเริ่มก่อหวอดโดยการขว้างปาสิ่งของ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก คือเริ่มการเจรจาและขอร้องให้นักโทษขึ้นเรือนนอน

แต่มีนักโทษกลุ่มของผู้ตายซึ่งมีอยู่ประมาณ 40 คน ได้พยายามที่จะยุยงให้นักโทษคนอื่นๆไม่ให้ทำตามเจ้าหน้าที่และยังเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่จึงทำให้ต้องใช้มาตรการหนักคือวิสามัญ เพื่อหยุดการกระทำของกลุ่มนักโทษเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกตั้งแต่ย้ายเรือนจำกลางจากในตัวอำเภอเมืองมาอยู่ที่ หมู่ 6 ต.น้ำพุ อ.เมือง เกือบสิบปีแล้ว ส่วนนักโทษที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ได้ทำการแยกกักขัง และจะได้ทำการสอบสวนเพื่อลงโทษสถานหนักต่อไป



ภาพ/ข่าว สุชาติ รอดบุญพา
18/02/54

ช่วยสนับสนุน HCTV จะได้มีข่าวอย่างนี้ ให้อ่านต่อไป
ติดต่อสนับสนุน โทร 0-3231-0262

ไม่มีความคิดเห็น: