สำหรับอัตโนประวัต พระครูสุนทรจริยาวัตร หรือหลวงปู่ม่วง นาคเสโน มีนามเดิมว่า ม่วง พุ่มโรจน์ เกิดเมื่อวันพุธที่ 21 สิงหาคม 2455 ปีชวด ณ บ้านหมู่ที่ 5 ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ครั้นอายุ 20 ปี ถึงวัยเกณฑ์ทหาร นายม่วงได้เข้ารับการคัดเลือก ปรากฏว่าจับได้ใบดำ จึงตัดสินใจอุปสมบท เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2474 ณ พัทธสีมา วัดปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โดยมีพระราชเขมาจารย์ ( หลวงพ่อเปราะ ) วัดช่องลม อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ (หลวงพ่อเปราะองค์นี้ก็สุดยอดแห่งพระเกจิอาจารย์เมือ งราชบุรี เป็นศิษย์ของหลวงปู่ห้อง วัดช่องลม พระอริยสงฆ์ยุคเก่าในอดีต ท่านสร้างเหรียญหล่อคล้ายๆหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน สมัยก่อนถ้าหลวงปู่ห้อง สักให้ใคร จะเหนียวทรหด ศาสตาวุธทำอะไรไม่ได้ จนต้องมาให้ท่านรดน้ำมนต์ ทำพิธีถอนคาถาให้ ศาสตาวุธจึงจะทำอะไรได้ ) พระอาจารย์เทียน วัดป่าไก่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาสุข วัดปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ พระม่วงได้มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ในทางพระปริยัติธรรม เป็นที่ยอมรับของพระอาจารย์ และพระภิกษุรุ่นราวคราวเดียวกัน พ.ศ.2476 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนวัดปากท่อ พ.ศ.2478 สอบได้นักธรรมชั้นโท และพ.ศ.2480 จบพระปาฏิโมกข์ แม้ในชั้นแรก ตั้งใจบวชเรียนเพียง 2-3 พรรษา แต่เมื่อได้ร่ำเรียนพระปริยัติธรรม และซาบซึ้งในรสพระธรรมคำสอน จนไม่คิดอยากลาสิกขา ท่านตัดสินใจเดินทางมาอยู่ที่วัดยางงาม ร่วมกับพระลูกวัด และชาวบ้าน พัฒนาวัดอย่างต่อเนื่อง จัดสอนธรรมะ เปิดโรงเรียนสอนพระอภิธรรม มีชาวบ้านมาเรียนมากมาย ท่านเคยปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม ร่วมกับหลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ หลวงปู่ม่วงท่านจะมีอายุเท่าๆกับหลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ สมัยหลวงปู่หยอด ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะไปมาหาสู่กันบ่อยมาก เพราะท่านเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันต่อมาได้จัดให้มีการบวชชีพราหมณ์ ในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมกันอย่างมาก และยังมีบวชสามเณรภาคฤดูร้อนอีกด้วย งานด้านการศึกษา พ.ศ.2480 เป็นครูสอนนักธรรม พ.ศ.2501 เป็นเจ้าสำนักเรียนพระปริยัติธรรมวัดยางงาม และเป็นผู้อุปการะโรงเรียนประชาบาลวัดยางงาม ในการส่งเสริมการศึกษาหรือการเผยแผ่พุทธศาสนา หลวงปู่ม่วง ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง อบรมศีลธรรม จริยธรรม แก่ประชาชนทั่วไป จัดให้มีการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน อบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานทุกปี จัดสวดพระปาฏิโมกข์และฟังอ่านพระปาฏิโมกข์แปล ทุกวันพระ 15 ค่ะ กลางเดือนและสิ้นเดือน นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการพิมพ์หนังสือ บทความธรรมะ แจกจ่ายแก่พระภิกษุ สามเณรและบุคคลทั่วไป ท่านชอบให้ธรรมเป็นทาน ถ้าใครถาม เรื่องธรรมมะกับท่าน ท่านจะคุยได้นานมากทีเดียว ต่อมายังมีจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษา ในเขตโรงเรียนประถมศึกษาต่างๆ และการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ งานสาธารณูปการ จัดการบูรณะและพัฒนากุฏิสงฆ์ทรงไทยเรือนไม้ ศาลาหอฉัน สร้างสะพานข้ามคลองยาว 15 เมตร กว้าง 2 เมตร เพื่อประโยชน์ส่วนรวม พร้อมทั้งจัดสร้างถาวรวัตถุต่างๆอีกมากมาย ส่วนลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2480 เป็นครูสอนนักธรรม ณ สำนักเรียนวัดยางงาม พ.ศ.2488 เป็นเจ้าคณะตำบลจอมประทัด พ.ศ.2501 เป็นเจ้าอาวาสวัดยางงามและเจ้าคณะตำบลปากท่อ พ.ศ.2508 เป็นพระอุปัชฌาช์ พ.ศ.2540เป็นรองเจ้าคณะอำเภอปากท่อ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2501 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ เป็น "พระครูสุนทรจริยาวัตร" พ.ศ.2521 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม หลวงปู่ม่วง เป็นพระที่มีความเมตตา ไม่เคยดุด่าว่าใคร ทำให้ชาวบ้านต่างเลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง ท่านเคยปรารภว่า อยากให้ทุกคนมีความเมตตา ด้วยมีเมตตาแล้ว สิ่งดีจะบังเกิดตามมา นอกจากนี้ มีคำร่ำลือกันว่า หลวงปู่ม่วงมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ พูดสิ่งใด มักจะเป็นอย่างที่พูดเสมอ ส่วนคณะศิษยานุศิษย์ที่เคารพนับถือมีทุกชนชั้น ตั้งแต่ข้าราชการ นักการเมือง พ่อค้าประชาชน ไปจนถึงประชาชนระดับรากหญ้า ด้านวัตถุมงคล ชื่อดังที่หลวงปู่ม่วงได้จัดสร้าง เป็นที่ปรารถนาของบรรดาศิษยานุศิษย์ ด้วยอิทธฤทธิ์มากมาย วัตถุมงคลที่เคยทำออกมา อาทิ เหรียญหลวงปู่ม่วง จัดสร้างปี พ.ศ.2528 งานปิดทองฝังลูกนิมิต เป็นเหรียญรุ่น 1 ต่อมาได้จัดทำเชือกมงคลด้าย 7 สี เหรียญลงยา พระปิดตา แต่ละรุ่นมีประวัติไม่ซ้ำกัน สำหรับวัตถุมงคลของหลวงปู่ม่วงที่ลูกศิษย์ได้ไปบูชานั้น ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า โดดเด่นด้านเมตตามหานิยม และอยู่ยงคงกระพัน เคยมีผู้ที่มีประสบการณ์จากอุบัติเหตุร้ายแรงต่างๆ แต่รอดพ้นภยันตราย และแคล้วคลาดปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้เชื่อมั่นถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่ม่วง คอยคุ้มครองปกปักรักษาอย่างปลอดภัย ทำให้ประชาชนชาวจังหวัดราชบุรี และประชาชนทั่วประเทศ มุ่งหน้าเดินทางมาที่วัดยางงาม เพื่อขอพร และให้หลวงปู่ม่วง เสกเป่ากระหม่อม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตอีกด้วยชาวบ้านที่เดินทางมาเข้าร่วมพิธีอุปสมบท หรือบวชชีพราหมณ์ หลวงปู่ม่วง จะเป็นผู้ที่สั่งสอนด้วยตนเอง โดยจะเน้นให้ทุกคนปฏิบัติตนให้เป็นคนดี และให้มีจิตใจเมตตา เมื่อมีความเมตตาแล้ว ทุกอย่างจะตามมา และประสบความสำเร็จในชีวิต คำสอนที่หลวงปู่ม่วงได้กล่าวเน้นย้ำให้ทุกคนฟัง และ ให้ทุกคนจดจำขึ้นใจมีใจความว่า"ขอให้ทุกคนจงรักษาศีล ทำแต่ความดี เมตตาเขา เขาเมตตาเรา ธรรมะจะรักษาคน ธรรมะจะรักษาตัว ธรรมะจะรักษาใจ ทั้งหมดรวมไว้ในเมตตาธรรม แจกธรรมะ ดีกว่าแจกพระเครื่อง"ถึงแม้อายุขัยจะล่วงเข้าสู่วัย 95 ปี แต่ด้วยความมีเมตตาเป็นที่ตั้งหลวงปู่ม่วงมักจะถูกนิ มนต์ ให้ไปนั่งร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอยู่เป็นเนืองนิตย์ ประกอบกับมีร่างกายที่ยังแข็งแรง มีความคิดพัฒนาอยู่ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้ ทำให้ท่านมุ่งมั่นทำงานเผยแผ่พระธรรมอย่างต่อเนื่อง ยึดมั่นที่จะเดินหน้าให้ทุกท่านรับความรู้สัจธรรมแห่งชีวิต สมกับฉายานาม พระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น