ชาวสวนยางพารา ในหมู่บ้านถ้ำหิน อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เดินทางสอบถามความคืบหน้า กรณีถูกไฟป่าเผาไหม้สวนยางพารากินเนื้อที่กว่า 3 แสนไร่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับค่าชดเชยจากรัฐ
ที่บริเวณสำนักงานของนายมานิต นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี นายสมรส เฮงเพชรบูรณ์ อายุ 44 ปี นายเอกวัฒน์ ตรึกตรอง อายุ 54 ปี และนายวันชัย กาญจนเพ็ญ อายุ 39 ปี ตัวแทนชาวสวนยางพารา ในหมู่บ้านถ้ำหิน หมู่ 5 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ได้พากลุ่มชาวสวนยางพารามาสอบถามความคืบหน้ากรณีสวนยางพารากว่า 3 แสนไร่ ถูกไฟไหม้แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับค่าชดเชยจากรัฐ ต่อนายมานิต นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี
โดยเมื่อประมาณต้นเดือน มี.ค.2553 ที่ผ่านมาสวนยางพาราของชาวบ้านได้ถูกไฟป่าเผาไหม้กินเนื้อที่กว่า 300,000 ไร่ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเพราะพืชผลทางการเกษตรรวมทั้งต้นยางพาราที่ปลูกไว้ถูกไฟไหม้หมด บางรายถึงกับหมดตัว ซึ่งภายหลังเกิดเหตุทางสำนักงานเกษตรอำเภอสวนผึ้งได้ออกไปทำการสำรวจจำนวนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุไฟป่าซึ่งมีทั้งหมด 121 ราย และประกาศพื้นที่ในต.สวนผึ้งให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ และจะให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในความเสียหายที่เกิดขึ้นตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 90 วัน
แต่หลังจากเกิดเหตุมาจนถึงตอนนี้ ชาวบ้านยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐเลย แม้ว่าจะมีการติดตามและสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้รับคำตอบว่าส่งเรื่องไปยังกระทรวงเกษตรแล้ว แต่ช่วยเหลือได้เพียง 28 รายเท่านั้น เพราะไปลงทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 ส่วนที่ลงทะเบียนไว้ก่อนปี พ.ศ.2552หรือลงทะเบียนในช่วง ปี 53 นั้นระบบได้ล้างข้อมูลไปหมดแล้วทำให้มีเฉพาะแค่ในปี 2552 ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับการช่วยเหลือจำนวน 28 รายก็ยังไม่ได้รับค่าชดเชยแต่อย่างใด
จึงได้รวมตัวกันมาสอบถามความคืบหน้าในครั้งนี้ ซึ่งนายมานิต นพอมรบดี ได้สอบถามไปยัง นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ซี่งก็ได้รับคำตอบว่าทางจังหวัดได้ส่งเรื่องไปยังกรมบัญชีกลาง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนของการตรวจสอบเท่านั้น
โดยเมื่อประมาณต้นเดือน มี.ค.2553 ที่ผ่านมาสวนยางพาราของชาวบ้านได้ถูกไฟป่าเผาไหม้กินเนื้อที่กว่า 300,000 ไร่ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเพราะพืชผลทางการเกษตรรวมทั้งต้นยางพาราที่ปลูกไว้ถูกไฟไหม้หมด บางรายถึงกับหมดตัว ซึ่งภายหลังเกิดเหตุทางสำนักงานเกษตรอำเภอสวนผึ้งได้ออกไปทำการสำรวจจำนวนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุไฟป่าซึ่งมีทั้งหมด 121 ราย และประกาศพื้นที่ในต.สวนผึ้งให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ และจะให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในความเสียหายที่เกิดขึ้นตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 90 วัน
แต่หลังจากเกิดเหตุมาจนถึงตอนนี้ ชาวบ้านยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐเลย แม้ว่าจะมีการติดตามและสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้รับคำตอบว่าส่งเรื่องไปยังกระทรวงเกษตรแล้ว แต่ช่วยเหลือได้เพียง 28 รายเท่านั้น เพราะไปลงทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 ส่วนที่ลงทะเบียนไว้ก่อนปี พ.ศ.2552หรือลงทะเบียนในช่วง ปี 53 นั้นระบบได้ล้างข้อมูลไปหมดแล้วทำให้มีเฉพาะแค่ในปี 2552 ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับการช่วยเหลือจำนวน 28 รายก็ยังไม่ได้รับค่าชดเชยแต่อย่างใด
จึงได้รวมตัวกันมาสอบถามความคืบหน้าในครั้งนี้ ซึ่งนายมานิต นพอมรบดี ได้สอบถามไปยัง นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ซี่งก็ได้รับคำตอบว่าทางจังหวัดได้ส่งเรื่องไปยังกรมบัญชีกลาง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนของการตรวจสอบเท่านั้น
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
14/07/53
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น