เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 26 พ.ย.2552 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์วิทยุ 191 จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งว่ามีพระเกิดอาการคลุ้มคลั่งขว้างปาทุบตีทรัพย์สินพังเสียหายและจุดไฟเผาโต๊ะเก้าอี้ เหตุเกิดที่วัดสันตานาถ เขตเทศบาลเมืองราชบุรีหลังรับแจ้งจึงวิทยุให้เจ้าหน้าที่สายตรวจไปตรวจสอบพร้อมด้วยมูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ที่เกิดเหตุพบประชาชนที่ทราบข่าวต่างมามุงดูเหตูการณ์ดังกล่าว
ภายในลานวัดด้านหลังกุฏิริมกำแพงพบพระพยล อายุ 65 ปี เป็นพระลูกวัดดังกล่าวอยู่ในอาการคุ้มคลั่งมือซ้ายถือมีดมือขวาถือสายยางและตระโกนห้ามใครเข้ามาใกล้ จากนั้นได้จุดไฟเผาเก้าอี้และโต๊ะ
เจ้าหน้าที่ได้พยายามเกลี้ยกล่อม อยู่นานก็ไม่เป็นผล พระพยลได้ใช้น้ำฉีดใส่เจ้าหน้าที่จนเจ้าหน้าที่ต้องถอยออกมา ปรับแผนใหม่และในจังหวะเดียวกันมีชาวบ้านคนหนึ่งที่แอบปีนกำแพงได้ใช้ไม้ตีมีดที่มือพระแต่พลาดทำให้เจ้าหน้าที่ต้องไล่ชายคนนั้นออกไปประกอบกับพระเริ่มอาการระแวงเพิ่มมากขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนใหม่โดยการต้องใช้รถดับเพลิงมาฉีดน้ำใส่พระ พอรถดับเพลิงมาเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการฉีดน้ำใส่พระพยล ทำให้พระพยลต้องถือมีดวิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ไรรุนแรง
ช่วงจังหวะนั้นเองพระพยลได้วิ่งหนีขึ้นไปบนกุฏิชั้น 2 เสียงเงียบหายไปพักหนึ่งจากนั้นพระพยลเริ่มนำกาน้ำร้อนเทลงมาใส่เจ้าหน้าที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งเข้าหาที่หลบ เจ้าหน้าที่ต้องปรับแผนใหม่อีกคือต้องพังประตูเข้าไปชาร์ตตัวพระพยล และต้องทำอย่างรวดเร็วและไม่ให้มีใครได้รับบาดเจ็บแผนการเริ่มขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้อุปกรณ์งัดประตูกุฏิและเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งคอยบุกชาร์ต
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นทันที่ที่ประตูถูกพังออกปรากฏว่าพระพยลวิ่งถือมีดออกมาไล่ฟันเจ้าหน้าที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกระโดดหนีตายกันช่วงจังหวะที่ชุลมุนกันเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งตัดสินใจเข้าล็อกตัวพระพยลไว้ได้และแย่งมีดจากมือสำเร็จ พระพยลพยายามดิ้นต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงต้องนำกุญแจมือมาล็อกไว้ จากนั้นได้นำตัวส่ง แผนกจิตเวช โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรีเพื่อให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญดูแลต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าพระพยลบวชเป็นพระลูกวัดมานานนับ 10 ปี และมีอาการทางจิตญาติโยมต้องนำยามาให้ฉันเป็นประจำจนก่อนเกิดเหตุพระพยลมีอาการคุ้มคลั่งขึ้นมาแล้วใช้ไม้ตีสิ่งของในวัดเสียหายและเกรงว่าพระพยลจะออกไปทำร้ายญาติโยมที่อยู่ด้านนอกจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นนับว่ายังโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ภายในลานวัดด้านหลังกุฏิริมกำแพงพบพระพยล อายุ 65 ปี เป็นพระลูกวัดดังกล่าวอยู่ในอาการคุ้มคลั่งมือซ้ายถือมีดมือขวาถือสายยางและตระโกนห้ามใครเข้ามาใกล้ จากนั้นได้จุดไฟเผาเก้าอี้และโต๊ะ
เจ้าหน้าที่ได้พยายามเกลี้ยกล่อม อยู่นานก็ไม่เป็นผล พระพยลได้ใช้น้ำฉีดใส่เจ้าหน้าที่จนเจ้าหน้าที่ต้องถอยออกมา ปรับแผนใหม่และในจังหวะเดียวกันมีชาวบ้านคนหนึ่งที่แอบปีนกำแพงได้ใช้ไม้ตีมีดที่มือพระแต่พลาดทำให้เจ้าหน้าที่ต้องไล่ชายคนนั้นออกไปประกอบกับพระเริ่มอาการระแวงเพิ่มมากขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนใหม่โดยการต้องใช้รถดับเพลิงมาฉีดน้ำใส่พระ พอรถดับเพลิงมาเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการฉีดน้ำใส่พระพยล ทำให้พระพยลต้องถือมีดวิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ไรรุนแรง
ช่วงจังหวะนั้นเองพระพยลได้วิ่งหนีขึ้นไปบนกุฏิชั้น 2 เสียงเงียบหายไปพักหนึ่งจากนั้นพระพยลเริ่มนำกาน้ำร้อนเทลงมาใส่เจ้าหน้าที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งเข้าหาที่หลบ เจ้าหน้าที่ต้องปรับแผนใหม่อีกคือต้องพังประตูเข้าไปชาร์ตตัวพระพยล และต้องทำอย่างรวดเร็วและไม่ให้มีใครได้รับบาดเจ็บแผนการเริ่มขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้อุปกรณ์งัดประตูกุฏิและเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งคอยบุกชาร์ต
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นทันที่ที่ประตูถูกพังออกปรากฏว่าพระพยลวิ่งถือมีดออกมาไล่ฟันเจ้าหน้าที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกระโดดหนีตายกันช่วงจังหวะที่ชุลมุนกันเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งตัดสินใจเข้าล็อกตัวพระพยลไว้ได้และแย่งมีดจากมือสำเร็จ พระพยลพยายามดิ้นต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงต้องนำกุญแจมือมาล็อกไว้ จากนั้นได้นำตัวส่ง แผนกจิตเวช โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรีเพื่อให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญดูแลต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าพระพยลบวชเป็นพระลูกวัดมานานนับ 10 ปี และมีอาการทางจิตญาติโยมต้องนำยามาให้ฉันเป็นประจำจนก่อนเกิดเหตุพระพยลมีอาการคุ้มคลั่งขึ้นมาแล้วใช้ไม้ตีสิ่งของในวัดเสียหายและเกรงว่าพระพยลจะออกไปทำร้ายญาติโยมที่อยู่ด้านนอกจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นนับว่ายังโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ภาพ/ข่าว ประทีป 26-11-52
1 ความคิดเห็น:
ตรงข้ามโรงเรียนเราเรยอะ!
แสดงความคิดเห็น