ผู้สูงอายุในจ.ราชบุรีและจังหวัดข้างเคียงกว่า 200คน ได้ร่วมกันลงชื่อและพากันเดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดราชบุรี เพื่อร้องเรียนเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ราชบุรี ที่สั่งเก็บเก้าอี้ไฟฟ้าสถิตหรืออุปกรณ์บำบัดด้วยกระแสไฟฟ้าสถิต ไปตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้ผุ้สูงอายุที่มาใช้บริการต้องผิดหวัง โดยมีนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายสละ รอดผล นิติกรของศูนย์ดำรงธรรม ได้มารับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว พร้อมทั้งให้ส่งตัวแทนผุ้สูงอายุจำนวนหนึ่งเข้าไปพูดคุยพร้อมทั้งเชิญนายแพทย์บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจ.ราชบุรี มาพบด้วย
โดยนายอุดร มนตรีมุข อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ใช้บริการเก้าอี้ไฟฟ้าสถิต ได้กล่าวว่า เมื่อประมาณต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้มีบริษัทเอกชนบริษัทหนึ่งนำเก้าอี้ไฟฟ้าสถิตย์หรือที่เรียกกันว่าอุปกรณ์บำบัดด้วยกระแสไฟฟ้าสถิตย์มาให้บริการด้วยการให้ผู้ที่เป็นโรคปวดตามร่างกาย ปวดข้อแขน ขา หลัง รวมทั้งผู้ที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต มานั่งเก้าอี้ไฟฟ้าที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าสถิตย์ไปตามร่างกายทำให้กระแสเลือดในร่างกายหมุนเวียนได้ดี จากผู้ที่มีอาการปวดต่างๆก็ทุเลาลง บางรายก็หายเลย ส่วนรายที่เดินไม่ได้หรือขยับบางส่วนของร่างกายไม่ได้ตอนนี้ก็สามารถขยับได้ หรือเดินได้เป็นการสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้มารับบริการซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้สูงอายุ และที่สำคัญเป็นการบริการที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ซึ่งถือเป็นความหวังของผู้รับบริการที่มีรายได้น้อย และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนกับเพื่อนๆผู้สูงอายุก็จะไปใช้บริการอีกแต่ถูกเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ให้บริการบอกว่าถูกสาธารณสุขจังหวัดราชบุรีสั่งให้งดบริการและสั่งให้เก็บเก้าอี้ไฟฟ้าสถิตทั้งหมด สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้สูงอายุที่มารอรับบริการจึงได้รวมตัวกันลงชื่อและเดินทางมาร้องเรียนที่ศาลากลางดังกล่าวพร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางสาธารณสุขได้อนุญาติให้ทางบริษัทนำเก้าอี้ไฟฟ้ามาให้ผู้สูงอายุใช้บริการได้จนกว่าจะมีข้อสรุปหรือตกลงกันได้
ทางด้านนายแพทย์บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจ.ราชบุรี ได้ชี้แจงกับผุ้สูงอายุที่มาร้องเรียนว่า ไม่สามารถสั่งให้เปิดบริการได้เนื่องจากมีคำพิพากษาของศาลจังหวัดลำพูนที่สั่งให้บริษัทที่มาให้บริการเก้าอี้ไฟฟ้าสถิต(บริษัทนิออนเซลล์ เมติคอล(ประเทศไทย)จำกัด หยุดดำเนินการให้บริการต่างๆ เนื่องจากบริษัทฯนั้นมีความผิดต่อพรบ.วิชาชีพเวชกรรม ความผิดต่อพรบ.สถานพยาบาลและความผิดต่อเครื่องมือแพทย์ พร้อมทั้งสั่งจำคุกพนักงานของบริษัท 2 คนๆละ 3 เดือน แต่ทั้งสองคนไม่เคยต้องโทษมาก่อนจึงให้รอลงอาญาสองปี ซึ่งศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 27 มี.ค.2552 ที่ผ่านมา
และเมื่อมาเปิดให้บริการอีกจึงต้องมีการสั่งปิดเพราะถือว่าขัดคำสั่ง และมีการโฆษณาโอ้อวดคุณประโยชน์หรือสรรพคุณว่าสามารถรักษาและบำบัดโรคต่างๆได้ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อ ซึ่งตัวแทนผู้สูงอายุที่มาร้องเรียนต่างก็ต้องเดินทางกลับไปด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เพราะทางสาธารณสุขจังหวัดนั้นนำหลักฐานซึ่งเป็นคำพิพากษาของศาลมาให้ดูแต่ทุกคนก็ยังมีความหวังว่าจะได้ใช้บริการเก้าอี้ไฟฟ้าสถิตอีก ถ้าทางบริษัทฯนั้นไปขออนุญาตได้ถูกต้อง
โดยนายอุดร มนตรีมุข อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ใช้บริการเก้าอี้ไฟฟ้าสถิต ได้กล่าวว่า เมื่อประมาณต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้มีบริษัทเอกชนบริษัทหนึ่งนำเก้าอี้ไฟฟ้าสถิตย์หรือที่เรียกกันว่าอุปกรณ์บำบัดด้วยกระแสไฟฟ้าสถิตย์มาให้บริการด้วยการให้ผู้ที่เป็นโรคปวดตามร่างกาย ปวดข้อแขน ขา หลัง รวมทั้งผู้ที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต มานั่งเก้าอี้ไฟฟ้าที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าสถิตย์ไปตามร่างกายทำให้กระแสเลือดในร่างกายหมุนเวียนได้ดี จากผู้ที่มีอาการปวดต่างๆก็ทุเลาลง บางรายก็หายเลย ส่วนรายที่เดินไม่ได้หรือขยับบางส่วนของร่างกายไม่ได้ตอนนี้ก็สามารถขยับได้ หรือเดินได้เป็นการสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้มารับบริการซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้สูงอายุ และที่สำคัญเป็นการบริการที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ซึ่งถือเป็นความหวังของผู้รับบริการที่มีรายได้น้อย และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนกับเพื่อนๆผู้สูงอายุก็จะไปใช้บริการอีกแต่ถูกเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ให้บริการบอกว่าถูกสาธารณสุขจังหวัดราชบุรีสั่งให้งดบริการและสั่งให้เก็บเก้าอี้ไฟฟ้าสถิตทั้งหมด สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้สูงอายุที่มารอรับบริการจึงได้รวมตัวกันลงชื่อและเดินทางมาร้องเรียนที่ศาลากลางดังกล่าวพร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางสาธารณสุขได้อนุญาติให้ทางบริษัทนำเก้าอี้ไฟฟ้ามาให้ผู้สูงอายุใช้บริการได้จนกว่าจะมีข้อสรุปหรือตกลงกันได้
ทางด้านนายแพทย์บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจ.ราชบุรี ได้ชี้แจงกับผุ้สูงอายุที่มาร้องเรียนว่า ไม่สามารถสั่งให้เปิดบริการได้เนื่องจากมีคำพิพากษาของศาลจังหวัดลำพูนที่สั่งให้บริษัทที่มาให้บริการเก้าอี้ไฟฟ้าสถิต(บริษัทนิออนเซลล์ เมติคอล(ประเทศไทย)จำกัด หยุดดำเนินการให้บริการต่างๆ เนื่องจากบริษัทฯนั้นมีความผิดต่อพรบ.วิชาชีพเวชกรรม ความผิดต่อพรบ.สถานพยาบาลและความผิดต่อเครื่องมือแพทย์ พร้อมทั้งสั่งจำคุกพนักงานของบริษัท 2 คนๆละ 3 เดือน แต่ทั้งสองคนไม่เคยต้องโทษมาก่อนจึงให้รอลงอาญาสองปี ซึ่งศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 27 มี.ค.2552 ที่ผ่านมา
และเมื่อมาเปิดให้บริการอีกจึงต้องมีการสั่งปิดเพราะถือว่าขัดคำสั่ง และมีการโฆษณาโอ้อวดคุณประโยชน์หรือสรรพคุณว่าสามารถรักษาและบำบัดโรคต่างๆได้ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อ ซึ่งตัวแทนผู้สูงอายุที่มาร้องเรียนต่างก็ต้องเดินทางกลับไปด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เพราะทางสาธารณสุขจังหวัดนั้นนำหลักฐานซึ่งเป็นคำพิพากษาของศาลมาให้ดูแต่ทุกคนก็ยังมีความหวังว่าจะได้ใช้บริการเก้าอี้ไฟฟ้าสถิตอีก ถ้าทางบริษัทฯนั้นไปขออนุญาตได้ถูกต้อง
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
21/10/53
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น