วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553

หัวหน้าแรกรับสถานพินิจฯเมาซิ่งฉุดสาว


หัวหน้าแรกรับสถานพินิจฯเมาซิ่งฉุดสาวชนอัดท้ายรถของแฟนหนุ่มดับคาที่ 2

เมื่อเวลา 04.50 น. วันที่ 1 เม.ย.53 พ.ต.ต.กิตติ ไชโย สารวัตรสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันมีผุ้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บที่บริเวณถนนสาย ราชบุรี-จอมบึง หมู่ 1 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยมูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ และแพทย์เวรโรงพยาบาลราชบุรี ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กจ-304 อุบลราชธานี สภาพด้านหน้าพังยับเยิน จอดอัดท้ายรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า แจส สีดำ หมายเลขทะเบียน ศศ-9427 กทม. สภาพอัดติดกับต้นไม้ข้างถนนอยู่ ภายในรถเก๋งโตโยต้า อัลติส พบนายบุญมี สุทธปัญญา อายุ 59 ปี นักวิชาการและฟื้นฟูเด็ก สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ราชบุรี และเป็นหัวหน้าสถานแรกรับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ราชบุรี เป็นคนขับรถสภาพเมาสุราจนไม่ได้สติ
ส่วนคนนั่งด้านข้างเป็นหญิงทราบชื่อต่อมาคือนางสาวชลธิชา แก้วดำรง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 5 ต.บ้านปราโมทย์ อ.บางคณฑี จ.สมุทรสงคราม ได้รับบาดเจ็บที่แขนและมีรอยฟกช้ำตามตัว เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลราชบุรี ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 2 คนซึ่งติดอยู่ในซากรถฮอนด้า แจส เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันงัดเอาศพออกมาทราบชื่อต่อมาคือ ส.อ.นิพนธ์ คำบุญ อายุ 36 ปี ทหารสังกัดกองพันทหารช่างที่ 112 กรมการทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ ค่ายบุรฉัตร จ.ราชบุรี สภาพศพคอหัก แขนขาหัก และนางสาวแป้ง ไม่ทราบนามสกุล อายุ 16 ปี สภาพคอหักเช่นกัน
จากการสอบสวนนางสาวชลธิชา ที่ได้รับบาดเจ็บในเบื้องต้นนั้นทราบว่า นายบุญมี สุทธปัญญา หัวหน้าสถานแรกรับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ราชบุรี ได้ไปนั่งดื่มเหล้าจนเมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในต.เจดีย์หัก และก่อนเกิดเหตุได้ออกมาจากร้านโดยมีตนเดินออกมาส่งที่รถ แต่นายบุญมีนั้นได้ลากให้ตนขึ้นรถมาด้วย ซึ่งขณะเกิดเหตุส.อ.นิพนธ์ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของนางสาวชลธิชาเห็น จึงได้ชวนนางสาวแป้งซึ่งเป็นเด้กเสิร์ฟในร้านดังกล่าวให้ขึ้นรถมาด้วยเพื่อขับตามรถของนายบุญมี
และระหว่างทางตนได้พยายามขอร้องให้นายบุญมีจอดรถ แต่นายบุญมีได้เร่งเครื่องยนต์เร็วขึ้น ส่วนแฟนหนุ่มที่ขับรถตามก็พยายามจะขับปาดหน้ารถให้นายบุญมีจอด เป็นช่วงจังหวะเดียวกับที่นายบุญมีเร่งเครื่องขึ้นไปอีก จึงทำให้รถของนายบุญมีนั้นชนท้ายรถของแฟนหนุ่มอย่างจังจนทำให้พลิกคว่ำ และไปฟาดกับต้นไม้และรถของนายบุญมีก็ไปอัดติดกับรถของแฟนหนุ่มจนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 2 รายดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากในขณะนี้นายบุญมีนั้นยังให้การอะไรไม่ได้เพราะยังอยู่ในสภาพเมามายจนไม่ได้สติ

ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
01/04/53

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ฝากถึงสื่อฯ สอบถามข้อเท็จจริงดูก่อน เมื่อลงข่าวไปแล้ว ทำให้ผู้อื่น เขาเสีย แต่เมื่อลงไปแล้ว คงทำอะไรไม่ได้ จะไปบอกสังคมยังไง อย่าเอาความมันในการเขียนข่าว คนที่อยู่มันตายทั้งเป็น

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แล้วคนที่ตายไปแล้วก็ลุกขึ้นมา แก้ตัวไม่ได้เช่นกัน