วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

แม่ค้าร้อง มูลนิธิปวีณาฯให้ช่วย หลังลูกชายโดนซ้อมจนตาย


แม่ค้าร้อง มูลนิธิปวีณาฯให้ช่วย หลังลูกชายโดนซ้อมจนตาย ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนจังหวัดราชบุรี อ้างเป็นฝีมือครูฝึก


เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 มี.ค. 53 น.ส.อรุณลักษณ์ อุ่นเดช อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173/2 ม.1 ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธาน มูลนิธิ ปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี(องค์กรสาธารณประโยชน์) ว่าลูกชายของตน ชื่อนายธนทัต อุ่นเดช อายุ 17 ปี ซึ่งถูกควบคุมดูแลอยู่ในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 2 จ.ราชบุรี ได้ถูกทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2553 บาดเจ็บสาหัส พร้อมทั้งถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลราชบุรี ที่ห้อง ไอซียู และได้เสียชีวิตลงในช่วงเช้าของวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา
ด้าน น.ส.อรุณลักษณ์ อุ่นเดช อายุ 33 ปี กล่าวว่า ตนมีอาชีพค้าขายอยู่ใน จ.สมุทรปราการ เมื่อเดือน มี.ค. 2552 ลูกชายตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ทับสะแก จับกุมในข้อหาอนาจาร ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี จากนั้นได้ถูกส่งตัวเข้ามาอยู่ที่สถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดราชบุรี แล้วได้ถูกส่งตัวต่อมายังศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 2 จ.ราชบุรี เพราะอายุไม่ถึง 18 ปี ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2553 ตนได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกฯ ว่าลูกชายป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชบุรี ตนและญาติจึงเดินทางไปเยี่ยมในวันที่ 20 ก.พ. 2553 ก็ถึงกับตกใจมากเพราะสภาพลูกชายถูกทำร้ายร่างกายอย่างมาก จึงเข้าไปพบแพทย์ที่ดูอาการ
โดยแพทย์บอกว่าสภาพเด็กบอบซ้ำภายในและภายนอก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เมื่อทราบดังนั้นตนจึงรู้ได้ว่า ลูกชายไม่ได้ป่วยแต่ถูกทำร้ายร่างกายจนต้องเข้าโรงพยาบาล และเมื่อเข้าไปสอบถามลูกชายที่นอนอยู่ในห้อง ICU โดยถามว่า ใครเป็นคนทำร้ายลูก ครูใช่ไหม ลูกชายที่นอนอยู่แต่พูดไม่ได้ ได้พยักหน้า ซึ่งที่ตนถามนั้นลูกชายตน มีสติสัมปชัญญะดี เพียงแต่พูดไม่ได้เท่านั้น ตนจึงพยายามโทรติดต่อไปทางศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 2 จ.ราชบุรี จนทราบว่า เด็กถูกทำร้ายจากเด็กที่อยู่ในศูนย์ฝึกอบรม ตนก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วก็วางหูไป
ด้าน น.ส.อรุณลักษณ์ฯ กล่าวต่อไปอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2553 ตนได้รับโทรศัพท์จากครูฝึกที่ชื่อว่าน้อย ได้บอกตนว่าลูกชายเป็นเด็กดี ช่วยเหลืองานครูฝึกเป็นประจำ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เจตนา โดยครูน้อยยอมรับว่า เป็นคนทำร้ายร่างกายลูกชายของตนและขอโทษที่ทำให้ลูกชายของตนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่คุยโทรศัพท์กับครูน้อยอยู่นั้น ตนได้บันทึกเสียงไว้เพื่อเป็นหลักฐาน เพราะสงสัยอยู่แล้วว่า ลูกชายตนไม่ได้โดนเด็กในศูนย์ฝึกอบรมทำร้ายอย่างแน่นอน
จนกระทั้ง เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2553 ตนได้เจอกับครูน้อย ที่โรงพยาบาลราชบุรี ตนจึงเข้าไปพูดคุยถึงสาเหตุที่ทำร้ายร่างกายลูกตน แต่ครูน้อยบ่ายเบี่ยงและพยายามพูดเรื่องอื่นแทน จนต่อมาวันที่ 5 ก.พ. 2553 ลูกชายตนได้เสียชีวิตลง โดยแพทย์ระบุสาเหตุการตายว่า ทรวงอกได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ปอดฟกซ้ำอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพัน ตนจึงได้ปรึกษากับญาติๆ และกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงตัดสินใจ เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณาฯ เพราะตนเชื่อว่าลูกชายไม่ได้ตายเพราะถูกเพื่อนทำร้ายร่างกาย สิ่งที่เกิดขึ้นทางศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 2 จังหวัดราชบุรี ต้องมีใครออกมารับผิดชอบในเรื่องนี้
ภายหลังได้รับแจ้ง นางปวีณาฯ ได้ประสานไปยัง นายธวัชชัย ไทยเขียว อธิบดีกรมพินิจคุมครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ แล้วจะได้พาตัว น.ส.อรุณลักษณ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อนุภาพ ศรีนวล ผกก.สภ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี เพื่อแจ้งความและนำศพ นายธนทัต ส่งตรวจชันสูตร ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ตำรวจ อย่างละเอียดอีกครั้ง

ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
08/03/53

ไม่มีความคิดเห็น: