วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

สองเสี่ยหนุ่มคนดังในอ.บ้านโป่ง รัว 9 มม. 2 ผัวเมียดับอย่างเหี้ยมโหด


สองเสี่ยหนุ่ม คนดังในบ้านโป่ง รัว 9 ม.ม. 2 ผัวเมียดับอย่างเหี้ยมโหด ชนวนมาจากดนตรีผับ ส่งเสียงดัง

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 2 มี.ค.53 พ.ต.ท.อภิวิชญ์ จันทวงศ์ พนักงานสอบสวน(สบ.3) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 30/1 ถนนบ้านปากแรด เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ห่างจาก“คูลบาร์ผับ”ประมาณ 30 เมตร จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก. พ.ต.ท.วัชรินทร์ พรายทองดี สว.สส. และกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ พบร่างของ นายชัยยุทธ แก้วยิ้ม อายุ 46 ปี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.เข้าที่บริเวณกลางหน้าอก 2 นัด และนางพัชรี แสงขำ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นภรรยา ถูกยิงด้วยกระสุนปืนชนิดเดียวกัน เข้าที่บริเวณหน้าท้อง 1 นัด นอนฟุบกับพื้นดิน หายใจรวยริน จึงรีบนำร่างทั้ง 2 ส่ง ร.พ.บ้านโป่ง ให้แพทย์ช่วยเหลือชีวิตเนื่องจากอาการสาหัส แต่นายชัยยุทธฯ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน นางพัชรีฯ ถูกส่งเข้าห้องไอซียู อาการเป็นตายเท่ากัน ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 2 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน ทราบว่า นายชัยยุทธฯ ผู้ตาย ทำงานเป็นพนักงานของเทศบาลตำบลเบิกไพร และนางพัชรี ผู้บาดเจ็บ มีอาชีพรับจ้างซักเสื้อผ้า ก่อนเกิดเหตุ ทั้งผู้ตายและภรรยา ได้พาลูกๆ คือ ด.ญ.สุกฤตา แก้วยิ้ม อายุ 14 ปี และ ด.ญ.บุณยพร แก้วยิ้ม อายุ 11 ปี เข้านอน เนื่องจากวันรุ่งขึ้นลูกสาวจะต้องไปสอบที่โรงเรียนเทศบาล 1 ทรงพลวิทยา
แต่เนื่องจากบ้านของนายชัยยุทธฯผู้ตาย อยู่ห่างจาก “คูลบาร์ผับ” ไม่ไกลนักและเสียงดนตรีจากผับก็ดังมาก ทำให้คนในบ้านและลูกๆนอนไม่หลับ นายชัยยุทธฯ จึงได้โทรศัพท์เข้าไปหา นายสมฤกษ์ หรือเอก วณิชนันทธาดา อายุ 35 ปี และนายสมชาย แมน วณิชนันทธาดา อายุ 33 ปี สองพี่น้อง ซึ่งเป็นเจ้าของผับดังกล่าว ขอให้ช่วยลดระดับเสียงของดนตรี ที่เล่นอยู่ลง ซึ่งก็ได้มีการโต้เถียงกันในโทรศัพท์ ถึงขั้นท้าทายกันเกิดขึ้น
นายสมฤกษ์ และนายสมชาย สองพี่น้องเจ้าของผับ จึงได้พาพรรคพวกกลุ่มหนึ่งออกจากผับ เดินมาถึงหน้าบ้านของนายชัยยุทธฯ ผู้ตายและภรรยา ซึ่งยืนรออยู่แล้ว จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการพูดโต้เถียงกันอย่างรุนแรง นายสมชาย หรือแมน เกิดบันดาลโทสะ จึงได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ออกมายิงใส่ นางพัชรีฯ 1 นัด จนล้มฟุบลง จากนั้นก็ใช้อาวุธปืนยิงใส่ร่างของนายชัยยุทธฯ ที่กำลังยืนตกตะลึงเนื่องจากเห็นภรรยาถูกยิงต่อหน้าต่อตา อีก 2 นัด จนล้มฟุบกองกับพื้นใกล้ๆกันอีกคน
หลังจากก่อเหตุ เจ้าของผับทั้ง 2 พร้อมพรรคพวก ได้พากันหลบหนีไป ชาวบ้านหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และช่วยกันนำร่างของ 2 สามีภรรยา ส่ง ร.พ. แต่นายชัยยุทธฯ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตดังกล่าว
ต่อมา เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ด.ต.สินชัย สุวรรณพฤกษ์ นายกเทศมนตรีตำบลเบิกไพร ได้นำชาวบ้านและเจ้าหน้าที่พนักงานของเทศบาลตำบลเบิกไพร กว่า 100 คน ได้เดินทางมาดูที่หน้า สภ.บ้านโป่ง เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและเร่งรัดให้จับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว พร้อมกล่าวว่า ผู้ตายเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชา ที่ผ่านมาผู้ตายปฏิบัติหน้าที่การงาน จนเป็นที่รักของเจ้าหน้าที่และพนักงานในเทศบาลทุกคน
ซึ่งตนและชาวบ้านที่มาวันนี้เห็นว่า คนร้ายมีใจคอโหดเหี้ยมมาก ถึงใช้อาวุธปืนยิงผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ และยังยิงผู้เป็นสามีจนเสียชีวิตถึงหน้าบ้าน ทั้งที่ผับดังกล่าว ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวผู้ตายและ ชาวบ้านแถวนั้นทุกคืน จึงอยากจะขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ด้าน พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้เดินทางมารับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวพร้อมกับกล่าวว่า ในคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแล้วว่าคนร้ายนั้นเป็นใครและได้ให้เจ้าหน้าที่ไปทำการขอออกหมายจับแล้ว จึงขอให้ทุกคนสบายใจได้และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
03/03/53

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทำไม..ใครๆ ก็มีปืนและกระสุนกัน..พอบันดาลโทสะและควบคุมอารมณ์ไม่ได้..ก็เกิดเหตุเช่นนี้..น่าสงสาร..พ่อแม่ที่ต้องจากลูกไปอย่างไม่มีวันกลับ..ผมอยากให้มีการควบคุมปืนและกระสุนกันอย่างจริงจัง..ไม่ใช่อย่างทุกวันนี้.หาซื้อได้ง่ายเหมือนกับตลาดนัด..และในกรณีนี้ การจัด Zoning สถานบันเทิง..ได้มีการควบคุมกำกับดูแลกันบ้างหรือไม่