วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ดีเอสไอ บุกค้นบ้านนายทุนรุกป่าที่กว่า 3,000 ไร่ 4 จุด


ดีเอสไอ บุกค้นบ้านนายทุนรุกป่าที่กว่า 3,000 ไร่ 4 จุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 6 สิงหาคม 2552 พ.ต.ท. อานนท์ อุนทริจันทร์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมบึง จังหวัดราชบุรี เพื่อขอกำลังและนำหมายตรวจค้นจากศาลจังหวัดราชบุรีเลขที่ 410 / 2552 เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 253 หมู่ 4 บ้านหนองนกกระเรียน ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายกิตติ ชำนาญวาด ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปแล้วในคดีร่วมกันบุกรุกแผ้วถางที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน ร่วมกันก่นสร้างเผาป่าตามพรบ.ป่าไม้ 2484 และเข้าไปทำลายอสังหาริมทรัพย์ของผุ้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งป่าที่ถูกบุกรุกนั้นเป็นสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชีกว่า 3,000 ไร่ ที่บริเวณหมู่ 5 บ้านถ้ำหิน ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จนทำให้พื้นที่ป่าสงวนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่จาก ดีเอสไอ ได้เข้าตรวจค้นบ้านที่ปลูกสร้างอย่างสวยหรูด้วยไม้สักทั้งหลัง ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใด ๆ พ.ต.ท. อานนท์ อุนทริจันทร์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ทางกรมสวบสวนคดีพิเศษ ได้แต่งตั้งคณะทีมทำงานตรวจค้น 4 จุด โดยแบ่งงานกันตรวจค้นจุละ 1 ทีม ซึ่งให้ตนนำทีมมาร่วมตรวจค้นบ้านพัก อย่างไรก็ตามข้อมูลก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประชุมพื้นที่ถูกบุกรุกโดยรวมมีการประเมินของที่ดินประมาณ 1,200 ล้านบาท ยังไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ราชพัสดุ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับชายแดนไทย – พม่า เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อความมั่นคง
ซึ่งการบุกรุกแผ้วถางป่าอาศัยแรงงานทั้งชาวบ้านในพื้นที่ และแรงงานชาวกะเหรี่ยง มอญ ในศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านถ้ำหิน มาทำการแผ้วถางป่า มีการตัดโค่นต้นไม้ใหญ่ ถางป่า จุดไฟเผา ก่อนที่จะเข้าไปดำเนินการก่อสร้างที่พัก และปลูกพืชเศรษฐกิจยางพารา จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ก่อนหน้านี้พบว่า พื้นที่ป่าในตำบลสวนผึ้ง มีการบุกรุกไปแล้วเกินกว่าครึ่งหนึ่งของป่าที่มีอยู่ มีนายทุนรายใหญ่เพียงไม่กี่รายที่เข้ามายึดครอง ทั้งพื้นที่ราบ และภูเขาซึ่งมีความลาดชันเกินกว่า 35 องศา ตามกฎหมายกำหนด มีการทำ เกษตรเพื่อบังหน้า แต่ส่วนในภูเขาด้านหลังของพื้นที่ มีการลักลอบแผ้วถาง จนภูเขาเตียนโล่งจำนวนหลายสิบลูก มีการนำเสนอขายให้กับผู้ที่สนใจเข้าไปทำรีสอร์ท หรือเข้าไปทำการเกษตรในพื้นที่ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จับกุมได้เฉพาะลูกหาบ หรือผู้ถูกว่าจ้าง มีคดีรุกป่าประมาณ 28 ราย ไม่เคยจับตัวการ หรือนายทุนผู้ว่าจ้างได้ เมื่อเข้าสู่ขบวนการชั้นศาล ๆ ก็ถูกยกฟ้อง
ภาพ/ข่าว ประทีป

ไม่มีความคิดเห็น: