วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

คนร้ายกระชากกระเป๋าพลเมืองดีขับรถไล่ชนรถล้มหนีเข้าป่าสุดท้ายไปไม่รอด


คนร้ายกระชากกระเป๋าพลเมืองดีขับรถไล่ชนรถล้มหนีเข้าป่าสุดท้ายไปไม่รอดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 4 พ.ค.52 เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุ สภ.เมืองราชบุรีได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายกระชากกระเป๋าเหตุเกิดบริเวณสี่แยกต้นสำโรงเขตเทศบาลเมืองราชบุรี โดยคนร้ายแต่งกายเสื้อยึดสีขาวกางเกงขายาวสีดำที่ศรีษะโพกผ้าสีแดง คนร้ายใช้รถ จยย.ฮอนด้าครีกสีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนร้ายขับมุ่งหน้าออกถนนเพชรเกษม ต่อมาได้มีนายอมร รวยบุญส่ง พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ได้ขับรถยนต์กระบะไล่ตามคนร้ายไปจนทันกันที่บริเวณถนนสายราชบุรี-เบิกไพร ม.2 ต.เจดีย์หัก นายอมรจึงใช้รถขับชนรถ จยย.ของคนร้ายจนล้มลงจากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีเข้าป่ากก ข้างทางไป เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 80 นายได้เข้าทำการปิดล้อมป่ากก บริเวณนั้นพร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูลมาทำการลุยค้นหาประกอบกับได้จุดไฟเผาป่ากก แต่คนร้ายก็ไม่ยอมออกมามอบตัว เจ้าหน้าที่จึงได้แต่ตรึงกำลังปิดล้อมไว้ ซึ่งได้ทำการตรวจสอบรถ ของคนร้ายพบว่าใต้เบาะรถพบกระเป๋าสะพายด้านในพบรูปถ่ายของคนร้าย ป้ายทะเบียนรถหมายเลขทะเบียน ขมท-374 ราชบุรี และพบสมุดธนาคารระบุชื่อนายอนุสรณ์ บุญทอง อายุ 26 ปี และทำการตรวจสอบทะเบียนรถก็เป็นชื่อเดียวกันจึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะชื่อนายอนุสรณ์ อย่างแน่นอน ต่อมาได้มี นางธนพร ธิติธรรม อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 76/33 ม.3 ต.ดอนแร่ อ.เมืองราชบุรี เข้าพบเจ้าหน้าที่พร้อมกับแจ้งว่าตนคือผู้เสียหายที่คนร้ายกระชากกระเป๋าไป พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยบุตรสาวได้ขับขี่รถ จยย.ยามาฮ่า มีโอ ทะเบียนขทษ-810 ราชบุรีจะไปฝากเงินที่ธนาคารโดยภายในมีเงินสดจำนวนหนึ่งและสร้อยคอทองคำอีก พอตนขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสีแยกไฟแดงโดยรถจอดติดไฟแดงอยู่จู่ๆคนร้ายได้ขับรถมาประกบพอไฟเขียวขึ้นคนร้ายได้กระชากกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลจากตนไปตนและลูกสาวได้ตระโกนร้องขอความช่วยเหลือ ช่วงจังหวะนั้นเองนายอมรพลเมืองดีจอดรถเห็นเหตุการณ์จึงขับรถไล่กวนคนร้ายไปและสามารถช่วยเหลือเอากระเป๋าคืนมาได้ในที่สุด
และเมื่อเวลา 13.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบคนร้ายอยู่บริเวณกลางทุ่งนาห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 500 เมตร จึงรีบนำกำลังเข้าไปปิดล้อมจนในที่สุดก็สามารถจับคนร้ายได้จึงนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่โรงพักต่อไป
ภาพ/ข่าว ประทีป 04-05-52

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากให้ประชาชนชาวราชบุรี และทั่วไปสนใจเรื่องนี้ให้มากๆ เพราะปัจจุบันคนตกงานเพิ่มขึ้น โจร มิจฉาชีพก็มากขึ้น และควรระวังตัวให้มากขึ้น เพราะจะต้องช่วยตัวเราเองก่อนที่หวังพึ่งใคร และอาจจะไม่มีใครช่วยคุณได้ตลอดเวลา และขอปรบมือด้วยความเคารพอย่างสูงและชื่นชมอย่างมาก ทางตำรวจ และหน่วยงานในบ้านเมืองควรให้สิ่งตอบแทนและยกย่องเขา เพื่อเป็นเกียรติกับเขาและครอบครัวของเขา