ประเพณีเข้าผีรอกหรือไซดักปลาของชาว ต.บางแพ

แบ่งปัน

ประเพณีสงกรานต์ของไทยหรือวันปีใหม่ของไทยนั้นเป็นประเพณีที่เก่าแก่สืบทอดกันมาโดยแต่ละชุมชน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอต่างๆได้จัดฉลองเทศกาลสงกรานต์ การละเล่นพื้นบ้าน อย่างเช่นที่ หมู่ 8 ต.บางแพ อ.บางแพ จ.ราชบุรี ได้มีประเพณีการเข้าผีรอกซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมากว่า 300 ปี และจะทำกันมาเป็นประจำทุกปีนั้น ซึ่งอุปกรณ์การที่จะนำมาเล่นในพิธีนั้นได้แก่ไม้ไผ่ลำใหญ่ยาวประมาณ 5-6 เมตร ไม้ไผ่ท่อนเล็กที่เอาไว้สำหรับเคาะเป็นจังหวะเพลง ไม้กระดานแผ่นใหญ่ รอกดักปลา ผ้าขาวม้า ไม้คานที่ใช้สำหรับหาบสิ่งของซึ่งจะต้องเป็นไม้คานที่แม่หม้ายใช้เท่านั้นเพราะเป็นความเชื่อของชาวเขมร ซึ่งหลังจากที่เตรียมสิ่งของอุปกรณ์เสร็จคนเฒ่าคนแก่ได้มา เชิญวิญญาณของบรรพบุรุษผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเข้ามาเล่นด้วยกัน ซึ่งการละเล่นการเข้าผีของชาวไทยเชื้อสายเขมร โดยการนำเอารอกดักปลาหรือไซ ที่ใช้แล้วพร้อมกับไม้คานหาบของซึ่งไม้คานนี้จะต้องเอาไม้คานที่แม่ม่ายใช้เท่านั้นเพราะเป็นความเชื่อของชาวเขมร จากนั้นนำผ้าขาวม้ามาพันรอบรอกหรือไซ ส่วนไม้คานเอามาวางบนรอก จากนั้นได้มีการจุดธูปเทียนเพื่อทำพิธีทางเขมรโดยการอันเชิญผีบรรพบุรุษหรือผีไม่มีญาติมาร่วมพิธีโดยมีการร้องเพลงพร้อมกับตบมือและเคาะไม้กระบอกไปตามจังหวะของเพลงและสำหรับผู้ที่จะเข้ามาเล่นเข้าผีนี้นั้นจะเป็นผู้ชายเท่านั้นเนื่องจากพิธีเข้าผีของชาวไทยเชื้อสายเขมรนั้นผีบางตัวจะแรงถ้าเอาผู้หญิงมาเข้าผีเกรงจะได้รับอันตราย แต่ผู้ชายคนไหนที่จิตแข็งผีก็จะไม่เข้า ผีจะเข้าเฉพาะคนที่จิตอ่อนเท่านั้น พอเริ่มมีเสียงเพลงผู้ชายที่อาสาเข้ามาก็จะเข้าในวงที่จุดตั้งรอกหรือไซ พอเสียงเพลงเริ่มกังวานผีก็จะเริ่มเข้าจากนั้นก็จะพุ่งตัวเข้าหารอกหรือไซกลิ้งไปตามพื้นหมุนไปหมุนมาเหมือนจรวจพร้อมกับฝุ่นที่ตลบอบอวนไปทั่วบริเวณ จากนั้นก็มีบรรดากองเชียร์ต้องตบมือและส่งเสียงเชียร์กันอย่างสนุกสนาน บางคนก็ได้รับบาดเจ็บคนละเล็กละน้อย แต่หลังจากที่จบการละเล่นผู้สื่อข่าวได้เข้าไปถามและพูดคุยคนที่เล่นตอบว่าเขาไม่เป็นอะไรเลยและตอนที่ผีเข้าไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ใจและตัวนั้นเบามากๆจนไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรลงไปและหลังจากเล่นเสร็จมีอาการที่เหนื่อยมากๆ
ประทีป 20-04-51