วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2552

อำเภอดำเนินสะดวก แห่พระทางน้ำเพื่ออนุรักษ์ประเพณีปฏิบัติของชุมชนสองฝั่งคลองดำเนินสะดวก


อำเภอดำเนินสะดวก จัดพิธีแห่พระทางน้ำ เพื่อเสริมศิริมงคลแก่ประชาชนสองฝั่งคลองดำเนิน ถือเป็นประเพณีปฏิบัติมาอย่างยาวนาน และร่วมรำลึกถึงเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุญนาค) ผู้ดำเนินการขุดคลองดำเนินสะดวก นายเนตร บัวโทน นายอำเภอดำเนินสะดวก ร่วมกับประชาชนชาวดำเนินสะดวก จัดพิธีแห่พระทางน้ำอันเป็นประเพณีปฏิบัติที่สืบสานกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพื่อความเป็นศิริมงคลของประชาชนชาวดำเนินสะดวก โดยพิธีเริ่มที่วัดประสาทสิทธิ ต.ประสาทสิทธิ อ.ดำเนินสะดวก จัดขบวนเรือประดับประดาตบแต่งอย่างสวยงามเพื่อเป็นขบวนเรือแห่พระพุทธรูปศักดิสิทธ์ หลวงพ่อไตรรัตน์ โรจน์ฤทธิ์ ขบวนเรือกว่าร้อยลำเคลื่อนขบวนล่องไปตามลำคลองดำเนินสะดวก ตั้งแต่ประตูน้ำบางยาง จังหวัดสมุทรสาคร ผ่านวัดประสาทสิทธิ จังหวัดราชบุรี ไปจนถึงประตูน้ำบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นระยะทางยาว 32 กิโลเมตร ขบวนเรือแห่หลวงพ่อไตรรัตน์โรจน์ฤทธิ์ ติดตามด้วยขบวนเรือของสมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เคลื่อนขบวนในท่ามกลางประชาชนทั้งสองฝั่งคลองต่างตั้งโต๊ะ ตั้งเครื่องสักการะหน้าบ้านเรือน ด้วยศรัทธาเปี่ยมล้นเรียงรายตลอดแนวสองฝั่งคลอง เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว
สมเด็จพระเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุญนาค) มีความสำคัญกับวัดปราสาทสิทธิ์และคลองดำเนินสะดวกอย่างยิ่ง เมื่อรัชกาลที่ 4 ได้รับสั่งให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เป็นแม่กองขุดคลองดำเนินสะดวก เมื่อขุดมาถึงหลักห้า ก็ระลึกถึงบิดาที่เคยปรารภว่าจะสร้างวัด จึงได้สร้างวัดจนแล้วเสร็จและประกอบพิธีผูกพัทธสีมา ประมาณ พ.ศ. 2448 โดยใช้ชื่อว่า วัดสมเด็จพระปราสาทสิทธิดาราม หลังจากวัดเดิมกุฎิโบสถ์ ชำรุดตามกาลเวลาแตกร้าวมากจึงได้ย้ายวัดมาอยู่ที่ริมคลองดำเนินสะดวก สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราช เสด็จมาตรวจการได้รับสั่งให้ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดปราสาทสิทธิ์ หลังจากนั้นได้มีการนำพระพุทธรูป จากวัดเชิงเลน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาเป็นพระประธานโดยขนานนามว่า หลวงพ่อไตรรัตน์โรจน์ฤทธิ์ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชาวจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ปัจจุบันประดิษฐาน ณ วิหารหลังใหม่ โดยด้านใต้อาคารจะมีพิพิธภัณฑ์ สะสมของมีค่าเก่าแก่โบราณจำนวนมากควรแก่การศึกษาเรียนรู้อย่างยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น: