วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552

จังหวัดราชบุรี ประชุมกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันไฟป่า


จังหวัดราชบุรี ประชุมกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ครั้งที่ 1/2552 หามาตรการป้องกันและแก้ไข กรณีเกิดวิกฤติควันไฟในอากาศช่วงฤดูแล้ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงทีที่ห้องประชุมหลวงยกกระบัตร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดราชบุรี นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยนายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน นายสมศักดิ์ โยนกพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานเปิดการประชุม คณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ครั้งที่ 1/2552 โดยในที่ประชุมได้มีการเสนอการแต่งตั้ง แก้ไขตำแหน่งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จังหวัดราชบุรี ประจำปี 2551-2552 เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าตลอดจนการเกิดวิกฤตหมอกควันไฟในอากาศช่วงฤดูแล้งและช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที การเตรียมการก่อนถึงฤดูไฟป่า ที่มีการเตรียมการคือ การจำแนกพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า 3 ระดับคือ สูง ปานกลาง และต่ำ โดยจำแนกตามประเภทของป่า ดังนี้ ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าสูง ป่าดิบแล้ง ป่าพรุ ป่าสนเขา มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าปานกลาง และป่าดิบชื้น มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าต่ำ ซึ่งจังหวัดราชบุรี จัดอยู่ในระดับสูง จากประเภทป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ การกำหนดเขตควบคุมไฟป่าของประกาศจังหวัด ที่มีการกำหนดเขตควบคุมไฟป่าในจังหวัดราชบุรี ในเขตอำเภอปากท่อ อำเภอสวนผึ้ง และอำเภอบ้านคา แผนระดมพลดับไฟป่า ที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงวิกฤต การจัดเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ดับไฟป่า การหมั่นตรวจค้นและตรวจตราลาดตระเวนการปฏิบัติงานช่วงฤดูแล้งและเทศกาล การจัดตั้งเครือข่ายการแก้ไขปัญหาไฟป่าภาคประชาชนในพื้นที่การส่งเสริมกระจายอำนาจด้านการควบคุมไฟป่าให้ อปท. การป้องกันไฟป่าโดยจัดให้มีการรณรงค์และการฝึกอบรมสอดแทรกการประชาสัมพันธ์ป้องกันไฟป่าผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ และสื่อมวลชนอื่นทุกแขนง การหาข่าวในพื้นที่ การบังคับใช้กฎหมาย การจัดทำฝายต้นน้ำ (ฝายแม้ว) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น การป้องกันการเกิดไฟป่าจากสองข้างทาง การเตรียมความพร้อมในการดับไฟป่า การดับไฟป่า ที่มีการฝึกอบรมทุกปี เพื่อให้เห็นจริงและสามารถแก้ไขปัญหาไฟไหม้ที่เกิดขึ้นได้
การแก้ไขปัญหาไฟป่าเป็นปัญหาระดับชาติ จำเป็นต้องมีการบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนโดยทั่วไป เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่า ของประเทศสามารถดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพทันต่อเหตุการณ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรแห่งชาติและสิ่งแวดล้อม จึงขอความร่วมมือหน่วยงานต่างๆร่วมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักนายกรัฐมนตรีโดยกรมประชาสัมพันธ์
และจากผลสำรวจพบว่า สาเหตุของการเกิดไฟป่า ส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำของมนุษย์เช่น การเผาไร่ การหาของป่า การล่าสัตว์ การลักลอบทำไม้ ฯลฯ ซึ่งปัญหาดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อสังคมพืช ผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำ และกระทบด้านนันทนาการ และผลกระทบด้านอื่นๆ ที่จะกลายเป็นปัญหาต่างๆ ตามมาภายหลัง
นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้มีการเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาไฟป่า โดยจะมีการทำแนวเขตกันไฟป่า โครงการบุกรุกแก้ไขที่ดี การคืนที่ดินให้กรมธนารักษ์ เพื่อให้ประชาชนเช่าต่อ และการมอบเงินรางวัลให้กับผู้ที่มีผลงาน แก้ไขปัญหาไฟป่า โดยเกิดแรงผลักดันในการแก้ไขปัญหาต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: