มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงจัดแข่งขัน สสส. จอมบึงมาราธอนและจอมบึงเสือภูเขา 2552 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

แบ่งปัน

มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง แถลงข่าวการจัดงาน สสส. จอมบึงมาราธอนและจอมบึงเสือภูเขา 2552 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 17 – 18 มกราคม 2552

ที่ห้องประชุมราชพฤกษ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ผู้ช่วยศาตราจารย์ พิทักษ์ อาจคุ้มวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง แถลงการณ์ข่าวการจัดงาน สสส. จอมบึงมาราธอนและจอมบึงเสือภูเขา 2552 โดยความร่วมมือของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิสมาพันธ์ชมรมเดิน – วิ่ง เพื่อสุขภาพไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี องค์การภาครัฐและเอกชนกว่า 60 องค์กร ประชาชนในอำเภอจอมบึงและจังหวัดราชบุรี รวมถึงมวลชนผู้รักการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจากทั่วประเทศ พร้อมใจกันจัดงาน สสส. จอมบึงมาราธอน ปีที่ 24 และจอมบึงเสือภูเขา ปีที่ 16 อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งร่วมเปิดถนนสายประวัติศาสตร์ ถนนจอมบึงมาราธอน ซึ่งเป็นถนนของนักวิ่งกว่า 5,000 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือด้านการสร้างเสริมสุขภาวะระหว่างองค์กรในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อรณรงค์ให้นักศึกษา อาจารย์ ข้าราชการ บุคลากรของมหาวิทยาลัย เยาวชนและประชาชนทั่วไป ตระหนักและเห็นความสำคัญของการมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มจำนวนการออกกำลังกายของประชากรหน้าใหม่ด้วยการวิ่งและขี่จักรยานเพื่อสุขภาพเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเผยแพร่ชื่อเสียงของอำเภอจอมบึงและจังหวัดราชบุรี และเพื่อจัดหารายได้สมทบทุนมูลนิธิวิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึงและกองทุนการสร้างเสริมสุขภาวะของมหาวิทยาลัย ซึ่งกิจกรรมในวันเสาร์ที่ 17 มกราคม 2552 เป็นการแข่งขันจักรยานเสือถูเขาประเภท A ระยะทาง 35 กิโลเมตร เสือภูเขาประเภท B ระยะทาง 30 กิโลเมตร และเสือภูเขาประเภท C ระยะทาง 15 กิโลเมตร โดยในช่วงเช้าจะมีการขี่จักรยานแรลลี่ เพื่อชมความงามของอำเภอจอมบึงโดยรอบด้วย
ส่วนในวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม 2552 จะเป็นการแข่งขันวิ่งมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ครึ่งมาราธอน 21.1 กิโลเมตร และมินิมาราธอน 9 กิโลเมตร และกิจกรรมสุขภาพอื่นๆอีกมากมาย ที่สำคัญในปีนี้ ผู้เข้าแข่งขันทุกกลุ่มอายุที่ชนะเลิศ จะได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ภาพ/ข่าว
ภัทรพงศ์/ปรพล