วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เวิร์คช็อป สัญจร เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ภายในองค์กร


สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม จัดโครงการเวิร์คช็อปสัญจร เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ภายในองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนทางธุรกิจ

ที่ห้องเพชรชมพูโรงแรมโกลเดนซิตี้ นายสมนึก นาคะศักดิ์เสวี ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง นายอัครพล วิสีปัต ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี รวมทั้งผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดโครงการเวิร์คช็อปสัญจรเพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ภายในองค์กร ในการนี้นายสมนึก นาคะศักดิ์เสวี ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลางกล่าวว่า ด้วยผลการดำเนินงานปี 2550 ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยการสนับสนุนของกระทรวงอุตสาหกรรม มีผลสำเร็จผลักดัน ผู้ประกอบการให้มีการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ สามารถปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการลดค่าใช้ค่ายในการบริหารงาน และสามารถแข่งขันได้ในธุรกิจของตน
ในปี 2551 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนให้ดำเนินโครงการพัฒนาขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ภายใต้งบประมาณเพื่อปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ มีกิจกรรมภายใต้โครงการ ดังนี้ การอบรมปูพื้นฐานโลจิสติกส์ ซึ่งครอบคลุม 5 ภูมิภาคของประเทศ, การจัดอบรมให้ความรู้ด้านการจัดการโลจิสติกส์แก่ผู้บริหารทั้งภาครัฐและเอกชน, การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ (Workshop) ให้กลุ่มอุตสาหกรรม, การพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ให้กับผู้แทนกลุ่มอุตสาหกรรม และการจัดเยี่ยมชมสถานประกอบการต้นแบบด้านโลจิสติกส์ สำหรับกิจกรรมการอบ Workshop – สัญจรเพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ภายในองค์กรที่จัดขึ้นที่จังหวัดราชบุรีนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้ผู้ประกอบการได้รับการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญในสาขาโลจิสติกส์และโซ่อุปทานหรือซัพพลายเชน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสนับสนุนความก้าวหน้าทางธุรกิจและขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์
สภาอุตสาหกรรมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรรวมไปถึงการถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รับทราบ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ต่อไป
ด้วยความหวังว่า ในอนาคต สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะได้รับโอกาสดำเนินโครงการดีๆ จากภาครัฐ เช่นนี้อีก เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการของไทย ในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน สภาพการเมืองที่วุ่นวาย โดยผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านต้องประสานความร่วมมือกันเพื่อพัฒนาประเทศของเราต่อไป
ภาพ/ข่าว ธนชาติ ภัทรพงษ์ ปรพล


ไม่มีความคิดเห็น: