เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธันวาคม 2551 ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรีจัดโครงการปลูกต้นไม้ 1 ต้น 1 โรงพัก 1 วัด 1 โรงเรียน สานสามัคคี ทำความดี ปลูกต้นไม้เพื่อพ่อและแม่ของแผ่นดิน ที่วัดท้ายเมืองราชบุรี
ที่บริเวณด้านหลังเมรุวัดท้ายเมือง พ.ต.อ.สมเกียรติ แสงสินสร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ดำเนินการเป็นประธานปลูกต้นไม้ในโครงการ 1 ต้น 1 โรงพัก 1 วัด 1 โรงเรียน โดยมีนางปาลิดา ปฐมภัฎ นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง ข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี พระสงฆ์วัดท้ายเมือง และคณะครูนักเรียนโรงเรียนวัดท้ายเมืองร่วมกันปลูกต้นไม้สักจำนวน 30 ต้น ในการนี้ พ.ต.อ.วัฒนา พิมพ์อัฐ กล่าวรายงานตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการดูแลรักษาต้นไม้ตามโครงการ โดยกล่าวว่า
ปัจจุบันความเสื่อมโทรมของทรัพยากรป่าไม้ในประเทศไทย ได้เข้าสู่ภาวะอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง สังเกตได้จากพื้นที่ป่าไม้ลดลงเรื่อยๆ จากปี พ.ศ.2504 มีป่าไม้ประมาณ 171 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 53 ของพื้นที่ทั้งประเทศ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 97 ล้านไร่ หรือร้อยละ 30 เท่านั้น ซึ่งมีอัตราลดลงโดยเฉลี่ยสูงถึงกว่าปีละ 1.6 ล้านไร่ และคาดว่าจะมีพื้นที่ถูกทำลายเพิ่มขึ้นอีก
เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 81 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2551 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำ “โครงการ 1 โรงพัก 1 วัด 1 โรงเรียน สานสามัคคี ทำความดีปลูกต้นไม้เพื่อพ่อและแม่ของแผ่นดิน” โดยจัดให้มีกิจกรรมการร่วมือร่วมใจปลูกต้นไม้ตามสถานที่ต่างๆ ได้แก่ สถานีตำรวจ วัด มัสยิด โบสถ์คริสต์และโรงเรียนเพื่อต้องการสร้างแรงจูงใจให้ตำรวจและประชาชนในเขตขุมชนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ ร่วมกันทะนุบำรุงรักษาต้นไม้ที่ร่วมกันปลูก โดยมีตำรวจ ครู นักเรียน นิสิต นักศึกษาและผู้นำทางศาสนา เป็นแกนนำสำคัญในการผนึกกำลังเพื่อสร้างความสามัคคีดังกล่าว และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและแสดงความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พ.ต.อ.วัฒนา พิมพ์อัฐ โรงเรียนวัดท้ายเมืองโดย นายธนู คชสวัสดิ์และวัดท้ายเมืองโดยพระครูสมุห์มงคล ศิริมังคฺโล จึงได้ประสานความร่วมมือในการดำเนินการตาม “โครงการ 1 โรงพัก 1 วัด 1 โรงเรียน สานสามัคคี ทำความดีปลูกต้นไม้เพื่อพ่อและแม่ของแผ่นดิน” ดังนี้
1. ทั้งสามฝ่ายจะร่วมมือกันทั้งด้านเจ้าหน้าที่ สนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ในการปลูกและดูแลรักษาต้นไม้ตลอดระยะเวลาตามโครงการฯ 1 ปี
2. ทั้งสามฝ่ายจะกำหนดให้มีผู้ดูแล และบำรุงรักษาต้นไม้ทุกต้นที่ปลูกตามโครงการตลอดระยะเวลา 1 ปี
3. ทั้งสามฝ่ายจะร่วมมือสนับสนุนกิจกรรมในโครงการนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ
4. ทั้งสามฝ่ายจะประสานความร่วมมือกันประชาสัมพันธ์เผยแพร่โครงการนี้ให้ประชาชนและผู้คนรอบข้างได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการปลูกต้นไม้ เพื่อที่จะได้นำไปเป็นแบบอย่างในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั้งในประเทศและในใจของประชาชนชาวไทย
ภาพ/ข่าว ประทีป
2 ธ.ค.51
ปัจจุบันความเสื่อมโทรมของทรัพยากรป่าไม้ในประเทศไทย ได้เข้าสู่ภาวะอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง สังเกตได้จากพื้นที่ป่าไม้ลดลงเรื่อยๆ จากปี พ.ศ.2504 มีป่าไม้ประมาณ 171 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 53 ของพื้นที่ทั้งประเทศ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 97 ล้านไร่ หรือร้อยละ 30 เท่านั้น ซึ่งมีอัตราลดลงโดยเฉลี่ยสูงถึงกว่าปีละ 1.6 ล้านไร่ และคาดว่าจะมีพื้นที่ถูกทำลายเพิ่มขึ้นอีก
เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 81 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2551 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำ “โครงการ 1 โรงพัก 1 วัด 1 โรงเรียน สานสามัคคี ทำความดีปลูกต้นไม้เพื่อพ่อและแม่ของแผ่นดิน” โดยจัดให้มีกิจกรรมการร่วมือร่วมใจปลูกต้นไม้ตามสถานที่ต่างๆ ได้แก่ สถานีตำรวจ วัด มัสยิด โบสถ์คริสต์และโรงเรียนเพื่อต้องการสร้างแรงจูงใจให้ตำรวจและประชาชนในเขตขุมชนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ ร่วมกันทะนุบำรุงรักษาต้นไม้ที่ร่วมกันปลูก โดยมีตำรวจ ครู นักเรียน นิสิต นักศึกษาและผู้นำทางศาสนา เป็นแกนนำสำคัญในการผนึกกำลังเพื่อสร้างความสามัคคีดังกล่าว และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและแสดงความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พ.ต.อ.วัฒนา พิมพ์อัฐ โรงเรียนวัดท้ายเมืองโดย นายธนู คชสวัสดิ์และวัดท้ายเมืองโดยพระครูสมุห์มงคล ศิริมังคฺโล จึงได้ประสานความร่วมมือในการดำเนินการตาม “โครงการ 1 โรงพัก 1 วัด 1 โรงเรียน สานสามัคคี ทำความดีปลูกต้นไม้เพื่อพ่อและแม่ของแผ่นดิน” ดังนี้
1. ทั้งสามฝ่ายจะร่วมมือกันทั้งด้านเจ้าหน้าที่ สนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ในการปลูกและดูแลรักษาต้นไม้ตลอดระยะเวลาตามโครงการฯ 1 ปี
2. ทั้งสามฝ่ายจะกำหนดให้มีผู้ดูแล และบำรุงรักษาต้นไม้ทุกต้นที่ปลูกตามโครงการตลอดระยะเวลา 1 ปี
3. ทั้งสามฝ่ายจะร่วมมือสนับสนุนกิจกรรมในโครงการนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ
4. ทั้งสามฝ่ายจะประสานความร่วมมือกันประชาสัมพันธ์เผยแพร่โครงการนี้ให้ประชาชนและผู้คนรอบข้างได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการปลูกต้นไม้ เพื่อที่จะได้นำไปเป็นแบบอย่างในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั้งในประเทศและในใจของประชาชนชาวไทย
ภาพ/ข่าว ประทีป
2 ธ.ค.51
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น