
เขื่อนรัฐประชาพัฒนา มรดกบาปที่อดีตนายกเทศมนตรีสร้างปัญหาค้างคา ทำลายภูมิทัศน์หน้าเมืองเสื่อมโทรมเกินหยั่งคาด ประชาชนรุมจี้นายกเปี๊ยกเร่งแก้ไข พัฒนาตามรูปแบบที่ประชาชนต้องการ
ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองราชบุรี นายพิชัย นันทชัยพร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองราชบุรี ชี้แจงเพิ่มเติมปัญหาเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองที่ถูกทุบทิ้งค้างคาปลายสมัยการบริหารของอดีตนายกเทศมนตรี นายพิชัย ชี้แจงว่าเขื่อนรัฐประชาพัฒนารูปแบบใหม่ที่ไม่ผ่านการทำประชาพิจารณ์ เกิดขึ้นในสมัยการบริหารงานของ นางศมานันท์ เหล่าวาณิชวิศิษฐ์ นายกเทศมนตรีในสมัยนั้น มีการเซ็นสัญญาเพื่อการดำเนินการก่อสร้างในรูปแบบใหม่ก่อนหมดวาระการดำรงตำแหน่งเพียงไม่กี่วัน เป็นการเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้างโดยกรมการขนส่งทางน้ำพาณิชนาวีไม่ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าว เมื่อผู้รับเหมาก่อสร้างดำเนินการทุบทำลายเขื่อนเก่า จึงไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างใหม่ได้ ปล่อยทิ้งค้างคาประจานความอัปยศ ทำลายภูมิทัศน์หน้าเมืองอย่างย่อยยับ
เมื่อนายพิชัย เข้าดำรงตำแหน่งต่อมา จึงหยิบปัญหาเหล่านี้ขึ้นมาดำเนินการ ปรากฏว่าติดขัดปัญหาทางด้านกฎหมายจนไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ แต่กระนั้นนายพิชัยก็ไม่ละความพยายาม เพราะถือว่าโครงการนี้เป็นโครงการริเริ่มแต่ดั้งเดิมตั้งแต่เริ่มมีแนวคิดจะสมัครรับการเลือกตั้ง เพื่อเข้าบริหารงานของเทศบาลเมืองราชบุรี จึงดำเนินการปรับปรุงรูปแบบเขื่อนเสียใหม่ ติดต่อกับศูนย์บริการวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดการออกแบบและคำนวนค่าก่อสร้างจนแล้วเสร็จในขณะนี้
การแก้ไขแบบผ่านการเห็นชอบจากทุกหน่วยงานแล้วถือว่าขณะนี้มีความพร้อมเกือบเต็มร้อยที่จะลงมือดำเนินการพลิกโฉมเปลี่ยนแปลงเพื่อก่อสร้างในรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน เทศบาลกำลังรอคอยแต่ใบคำนวณโครงสร้างฐานรากต่าง ๆ ที่กรมขนส่งทางน้ำพาณิชย์นาวียังไม่ตอบกลับมา
ในส่วนการทำประชาพิจารณ์ได้ติดต่อให้มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบเมื่อต้นปี พ.ศ.2551 ครั้งนั้นได้เชิญชวนพี่น้องประชาชนจังหวัดราชบุรีเข้าร่วมการทำประชาพิจารณ์ ต่างกับครั้งที่ผ่านมาที่ดำเนินการโดยไม่ถูกต้อง ทำให้คณะกรรมการที่ถูกแต่งตั้งขึ้นโดยคณะผู้บริหารเทศบาลยุคนั้น ถูกตั้งกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงการตรวจสอบยังคงค้างคามาจนถึงปัจจุบัน นายพิชัย กล่าวว่า การดำเนินงานบนความชอบธรรม ต้องยึดหลักการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 40 ถึงการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ที่มีส่วนได้เสียกับเรื่อองนี้
โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค่าแม่ค้าที่ขายของในตลาดโต้รุ่งหอนาฬิกาซึ่งอยู่ใกล้กับเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ได้รับผลกระทบจากการทุบเขื่อนที่คั่งค้างทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดไม่สะดวกแก่การจอดรถเข้าตลาดโต้รุ่ง
คณะผู้บริหารยืนยันจะรีบเร่งดำเนินการให้การก่อสร้างเกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะมีเป้าหมายในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นแหล่งการแข่งขันกีฬาทางน้ำ คือ กีฬาเจ็ตสกี ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเทศกาลราชบุรีไชน่าทาวที่จะมาถึงต้นปีหน้า คือระหว่าง วันที่ 23-31 มกราคม 2552 และในอนาคตพื้นที่ตลอดแนวเขื่อนจะจัดให้เป็น วอร์คกิ้ง สตรีท หรือถนนคนเดิน ซึ่งจะเพิ่มความหลากหลาย กลายเป็นจุดหมายสำคัญที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงวันหยุด จะกลายเป็นพื้นที่ดึงดูดให้เกิดการลงทุนทางการค้าของประชาชนในจังหวัดราชบุรี
ภาพ/ข่าวอุดมศักดิ์ สีตะชลาภรณ์
11 พ.ย. 51
ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองราชบุรี นายพิชัย นันทชัยพร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองราชบุรี ชี้แจงเพิ่มเติมปัญหาเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองที่ถูกทุบทิ้งค้างคาปลายสมัยการบริหารของอดีตนายกเทศมนตรี นายพิชัย ชี้แจงว่าเขื่อนรัฐประชาพัฒนารูปแบบใหม่ที่ไม่ผ่านการทำประชาพิจารณ์ เกิดขึ้นในสมัยการบริหารงานของ นางศมานันท์ เหล่าวาณิชวิศิษฐ์ นายกเทศมนตรีในสมัยนั้น มีการเซ็นสัญญาเพื่อการดำเนินการก่อสร้างในรูปแบบใหม่ก่อนหมดวาระการดำรงตำแหน่งเพียงไม่กี่วัน เป็นการเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้างโดยกรมการขนส่งทางน้ำพาณิชนาวีไม่ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าว เมื่อผู้รับเหมาก่อสร้างดำเนินการทุบทำลายเขื่อนเก่า จึงไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างใหม่ได้ ปล่อยทิ้งค้างคาประจานความอัปยศ ทำลายภูมิทัศน์หน้าเมืองอย่างย่อยยับ
เมื่อนายพิชัย เข้าดำรงตำแหน่งต่อมา จึงหยิบปัญหาเหล่านี้ขึ้นมาดำเนินการ ปรากฏว่าติดขัดปัญหาทางด้านกฎหมายจนไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ แต่กระนั้นนายพิชัยก็ไม่ละความพยายาม เพราะถือว่าโครงการนี้เป็นโครงการริเริ่มแต่ดั้งเดิมตั้งแต่เริ่มมีแนวคิดจะสมัครรับการเลือกตั้ง เพื่อเข้าบริหารงานของเทศบาลเมืองราชบุรี จึงดำเนินการปรับปรุงรูปแบบเขื่อนเสียใหม่ ติดต่อกับศูนย์บริการวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดการออกแบบและคำนวนค่าก่อสร้างจนแล้วเสร็จในขณะนี้
การแก้ไขแบบผ่านการเห็นชอบจากทุกหน่วยงานแล้วถือว่าขณะนี้มีความพร้อมเกือบเต็มร้อยที่จะลงมือดำเนินการพลิกโฉมเปลี่ยนแปลงเพื่อก่อสร้างในรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน เทศบาลกำลังรอคอยแต่ใบคำนวณโครงสร้างฐานรากต่าง ๆ ที่กรมขนส่งทางน้ำพาณิชย์นาวียังไม่ตอบกลับมา
ในส่วนการทำประชาพิจารณ์ได้ติดต่อให้มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบเมื่อต้นปี พ.ศ.2551 ครั้งนั้นได้เชิญชวนพี่น้องประชาชนจังหวัดราชบุรีเข้าร่วมการทำประชาพิจารณ์ ต่างกับครั้งที่ผ่านมาที่ดำเนินการโดยไม่ถูกต้อง ทำให้คณะกรรมการที่ถูกแต่งตั้งขึ้นโดยคณะผู้บริหารเทศบาลยุคนั้น ถูกตั้งกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงการตรวจสอบยังคงค้างคามาจนถึงปัจจุบัน นายพิชัย กล่าวว่า การดำเนินงานบนความชอบธรรม ต้องยึดหลักการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 40 ถึงการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ที่มีส่วนได้เสียกับเรื่อองนี้
โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค่าแม่ค้าที่ขายของในตลาดโต้รุ่งหอนาฬิกาซึ่งอยู่ใกล้กับเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ได้รับผลกระทบจากการทุบเขื่อนที่คั่งค้างทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดไม่สะดวกแก่การจอดรถเข้าตลาดโต้รุ่ง
คณะผู้บริหารยืนยันจะรีบเร่งดำเนินการให้การก่อสร้างเกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะมีเป้าหมายในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นแหล่งการแข่งขันกีฬาทางน้ำ คือ กีฬาเจ็ตสกี ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเทศกาลราชบุรีไชน่าทาวที่จะมาถึงต้นปีหน้า คือระหว่าง วันที่ 23-31 มกราคม 2552 และในอนาคตพื้นที่ตลอดแนวเขื่อนจะจัดให้เป็น วอร์คกิ้ง สตรีท หรือถนนคนเดิน ซึ่งจะเพิ่มความหลากหลาย กลายเป็นจุดหมายสำคัญที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงวันหยุด จะกลายเป็นพื้นที่ดึงดูดให้เกิดการลงทุนทางการค้าของประชาชนในจังหวัดราชบุรี
ภาพ/ข่าวอุดมศักดิ์ สีตะชลาภรณ์
11 พ.ย. 51
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น