สภาองค์กรชุมชนตำบลจังหวัดราชบุรี เปิดเวทีสานเสวนาเพื่อหาข้อยุติความรุนแรง จากสาเหตุการขัดแย้งทางการเมือง เรียกร้องทุกภาคส่วนและทุกฝ่ายเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างโดยหลีกเลี่ยงการปะทะด้วยกำลัง
ที่อาคารราชบุรีเกมส์ อำเภอเมืองราชบุรี นายเจน รัตนพิเชษฐชัย นายอำเภอเมืองราชบุรี เปิดเวทีสานเสวนาสร้างความสามัคคีครั้งที่ 1/2551 ท่ามกลางตัวแทนชาวบ้านทั้ง 14 ตำบล เข้าร่วมงานคับคั่ง ผู้ใหญ่ประสิทธิ ช้างแก้ว สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความขัดแย้งและยุติความรุนแรงโดยการหลีกเลี่ยงการปะทะกันทุกรูปแบบ เน้นย้ำให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างเต็มกำลังบนความถูกต้องและเที่ยงธรรม รัฐบาลและเจ้าหน้าที่จะต้องไม่ใช้ความรุนแรงตอบโต้ความรุนแรงบนความขัดแย้งทางการเมือง รัฐบาลมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมทั้งทางศีลธรรม จริยธรรมและกฎหมาย จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ประสานมือร่วมกันสืบสานเสวนาเพื่อสันติธรรม ทุกฝ่ายต้องเคารพในความคิดเห็นต่างไม่ประณามซึ่งกันและกัน ไม่ใช้ความรุนแรงเข้าตัดสินความผิดถูก ให้แต่ละฝ่ายมุ่งไปที่อนาคตของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
ขณะเดียวกันกับที่ นายเจน รัตนพิเชษฐชัย กล่าวว่า ขอให้ทุกคนเห็นความสำคัญของสามัคคี เพื่อประโยชน์ของคนในประเทศชาติเป็นสำคัญหัวใจของความเป็นประชาธิปไตย อยู่ที่ทุกองค์กรสำคัญต้องสามารถคานอำนาจกันได้ มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้โดยตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติ ทุกคนต้องอดทนต่อตัวเองและความคิดเห็นที่แตกต่าง ต้องเข้าใจว่าระบอบประชาธิปไตยนั้นไม่ใช่ระบอบที่สมบูรณ์แบบที่สุดแต่เป็นระบอบการปกครองที่มีข้อเสียน้อยที่สุดเท่านั้น
ในส่วนการเข้าสู่การปกครองแบบประชาธิปไตย นั่นคือการเลือกผู้อาสาสมัครเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรนั้น มีคำกล่าวว่าประชาชนในชาติมีนิสัยอย่างไร ก็ย่อมได้ผู้แทนราษฎรอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งกี่ครั้งในรูปแบบใดๆ ก็ยังเหมือนเดิม ที่ไม่มีการพัฒนาการเพื่อปรับเปลี่ยนไปสู่สำนึกตอบแทนบุญคุณแผ่นดินที่ดีกว่า
และก่อนปิดการสานเสวนาเพื่อยุติความรุนแรง เด็กหญิงศศิมาพรณ์ เครือละม้าย นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนเจี้ยใช้ อ.โพธาราม ผู้แทนเยาวชนจังหวัดราชบุรี ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เรียกร้องความสามัคคี เพื่อแสวงหาลู่ทางสู่สันติ
ภาพ/ข่าว ธนชาติ
20 พ.ย. 51
ขณะเดียวกันกับที่ นายเจน รัตนพิเชษฐชัย กล่าวว่า ขอให้ทุกคนเห็นความสำคัญของสามัคคี เพื่อประโยชน์ของคนในประเทศชาติเป็นสำคัญหัวใจของความเป็นประชาธิปไตย อยู่ที่ทุกองค์กรสำคัญต้องสามารถคานอำนาจกันได้ มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้โดยตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติ ทุกคนต้องอดทนต่อตัวเองและความคิดเห็นที่แตกต่าง ต้องเข้าใจว่าระบอบประชาธิปไตยนั้นไม่ใช่ระบอบที่สมบูรณ์แบบที่สุดแต่เป็นระบอบการปกครองที่มีข้อเสียน้อยที่สุดเท่านั้น
ในส่วนการเข้าสู่การปกครองแบบประชาธิปไตย นั่นคือการเลือกผู้อาสาสมัครเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรนั้น มีคำกล่าวว่าประชาชนในชาติมีนิสัยอย่างไร ก็ย่อมได้ผู้แทนราษฎรอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งกี่ครั้งในรูปแบบใดๆ ก็ยังเหมือนเดิม ที่ไม่มีการพัฒนาการเพื่อปรับเปลี่ยนไปสู่สำนึกตอบแทนบุญคุณแผ่นดินที่ดีกว่า
และก่อนปิดการสานเสวนาเพื่อยุติความรุนแรง เด็กหญิงศศิมาพรณ์ เครือละม้าย นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนเจี้ยใช้ อ.โพธาราม ผู้แทนเยาวชนจังหวัดราชบุรี ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เรียกร้องความสามัคคี เพื่อแสวงหาลู่ทางสู่สันติ
ภาพ/ข่าว ธนชาติ
20 พ.ย. 51
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น