วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คนร้ายควงมีดบุกเดี่ยวเข้าร้านทองชิงสร้อยคอ 20 บาท หนีลอยนวล



ช่วยสนับสนุน HCTV จะได้มีข่าวอย่างนี้ ให้ชมต่อไป
ติดต่อสนับสนุน โทร 0-3231-0262

เกิดเหตุอุจฉกรรจ์กลางใจเมืองราชบุรี เมื่อคนร้ายบุกเดี่ยวหวังใช้มีดฟันเจ้าของร้านทอง โชคดีได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนโจรสามารถชิงสร้อยคอทองคำหนักกว่า 20 บาท หลบหนีไปอย่างลอยนวล

หลังจาก พ.ต.ท.ศศิพงศ์ รุ่งสัมพันธ์ สารวัตรเวร สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดบุกชิงสร้อยคอทองคำในร้านทองชื่อ ร้านทองแม่ ล้วน เลขที่ 125 ถนนวรเดช เขตเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้สร้อยคอทองคำไปและขี่รถ จยย.หนีไปอย่างรวดเร็ว จึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบนายประสิทธิ์ ทัญธงชัย อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านยืนรออยู่ภายในร้านด้วยความตกใจ จากการตรวจสอบภายในร้านไม่มีกล้องวงจรปิด และในที่เกิดเหตุยังพบอาวุธมีดพกของคนร้ายทำตกไว้ ยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่บริเวณหน้าร้าน จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนายประสิทธิ์ เจ้าของร้านได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับภรรยาก็นั่งอยู่ในร้านจากนั้นมีคนร้ายเป็นชาย 1 คนขี่รถ จยย.ไม่ทราบทะเบียนและยี่ห้อ จอดเลยจากร้านไปประมาณ 20 เมตร จากนั้นคนร้ายได้เดินข้ามฝั่งไปบริเวณริมน้ำซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้านของตน เมื่อเห็นว่าไม่มีคนผลุกพล่านคนร้ายจึงวิ่งเข้ามาประชิดตัวและใช้อาวุธมีดฟัน ซึ่งในจังหวะนั้นตนยกแขนบังไว้คนร้ายจึงฟันพาด ตนก็เลยต่อสู้กับคนร้ายและเสียหลัก คนร้ายก็เลยกวาดสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และ 2 สลึงไปรวมแล้วกว่า 20 บาท มูลค่ากว่า 400,000 บาท จากนั้นคนร้ายก็วิ่งออกไปขี่รถ จยย.หนีไปอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่คนร้ายกำลังหนีชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงยังได้ช่วยกับจับแต่ก็ไม่สำเร็จจึงหนีไปได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่หลายจุดในตัวเมืองเพื่อหาเบาะแสของคนร้าย พร้อมกับนำเจ้าของร้านมาสอบปากคำและสเก็ตภาพคนร้าย

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกประชาสัมพันธ์ตามร้านทองต่างๆว่าถ้ามีลูกค้านำสร้อยทองทองคำเส้นละ 1 บาทและเส้นละ 2 สลึง มาจำนำหรือขายขอให้ช่วยตรวจสอบที่บริเวณตะขอของสร้อยจะมีอักษรคำว่าอยู่ ซินเจียเยี่ย ซึ่งเป็นภาษาจีนและเป็นโค๊ตของร้านอยู่ ซึ่งถ้าพบก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบทันที



ภาพ/ข่าว  ภัทรพงศ์   คำเปรม
05/11/53

ช่วยสนับสนุน HCTV จะได้มีข่าวอย่างนี้ ให้อ่านต่อไป
ติดต่อสนับสนุน โทร 0-3231-0262

ไม่มีความคิดเห็น: