น้ำป่าทะลักสวนผึ้งนักท่องเที่ยวติดกว่า 30 ชีวิต อีกกว่า 150 ครัวเรือนยังถูกตัดขาด
หลังจากที่ฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมานั้นส่งผลให้ในวันนี้(3 ก.ย.53) ในอ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พืชผลทางการเกษตรรวมทั้งบ่อเลี้ยงปลาสวายของชาวบ้านกว่า 20 บ่อได้รับความเสียหายทั้งหมด ประชาชนกว่า 150 ครัวเรือนที่บริเวณหมู่ 5 บ้านหุบน้ำเงินและบ้านแปดเหลี่ยมถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากน้ำป่าซัดเส้นทางเข้าออกขาดเป็นบริเวณกว้าง นอกจากนี้ที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สวนผึ้งคันทรีฮิลล์รีสอร์ท หมู่ 6 ต.สวนผึ้ง มีนักท่องเที่ยวติดอยู่ในรีสอร์ทกว่า 30 ชีวิต
เนื่องจากถูกน้ำป่าที่ไหลเชี่ยวพัดถนนทางเข้าขาดเป็นบริเวณกว้างกว่า 20 เมตร ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถออกไปได้ ทางนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี อำเภอสวนผึ้งและอบต.สวนผึ้ง ได้พยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ยังติดค้างอยู่ในรีสอร์ท โดยการตัดท่อนไม้ไปวางพาดเพื่อทำสะพานข้ามชั่วคราว แต่เนื่องจากปริมาณน้ำมากและไหลเชี่ยวทำให้เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือ จึงได้ติดต่อไปยังกรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี เพื่อขอสะพานแบริ่งมาทำสะพานข้ามชั่วคราวเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกมาก่อนที่จะค่ำมืด ส่วนความเสียหายอื่นๆนั้นทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้ทางผู้นำชุมชนได้ออกสำรวจและรีบรายงานให้กับทางอำเภอสวนผึ้งได้รับทราบเพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป เนื่องจากยังมีฝนตกอยู่ตลอด
เนื่องจากถูกน้ำป่าที่ไหลเชี่ยวพัดถนนทางเข้าขาดเป็นบริเวณกว้างกว่า 20 เมตร ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถออกไปได้ ทางนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี อำเภอสวนผึ้งและอบต.สวนผึ้ง ได้พยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ยังติดค้างอยู่ในรีสอร์ท โดยการตัดท่อนไม้ไปวางพาดเพื่อทำสะพานข้ามชั่วคราว แต่เนื่องจากปริมาณน้ำมากและไหลเชี่ยวทำให้เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือ จึงได้ติดต่อไปยังกรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี เพื่อขอสะพานแบริ่งมาทำสะพานข้ามชั่วคราวเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกมาก่อนที่จะค่ำมืด ส่วนความเสียหายอื่นๆนั้นทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้ทางผู้นำชุมชนได้ออกสำรวจและรีบรายงานให้กับทางอำเภอสวนผึ้งได้รับทราบเพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป เนื่องจากยังมีฝนตกอยู่ตลอด
ส่วนที่บริเวณบ้านทุ่งแฝกหมู่ 1 ต.สวนผึ้ง น้ำป่าได้ซัดตลิ่งพังเป็นวงกว้างพัดบ้านของนายกรัล สวง ซึ่งเป็นชาวกระเหรี่ยงหายไปครึ่งหลัง ส่วนที่เหลือชาวบ้านต้องช่วยกันมารื้อออกเพื่อไม่ให้น้ำพัดไป ซึ่งน้ำป่าในปีนี้นั้นรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมาเนื่องจากภูเขาที่เคยมีป่าไม้และเป็นแหล่งซับน้ำถูกตัดถางกลายเป็นภุเขาหัวโล้นเกือบหมด ทำให้ไม่มีต้นไม้มาซับน้ำ จึงทำให้น้ำไหลเชี่ยวแรงและสร้างความเสียหายให้กับประชาชนในพื้นที่อ.สวนผึ้งเป็นวงกว้าง และถ้ายังมีฝนตกอยู่ตลอดคาดว่าปริมาณก็คงจะเพิ่มมากกว่าเดิม และน้ำป่าไหลมารวมที่แม่น้ำลำภาชีก่อนจะไหลออกไปสู่อ.จอมบึงที่ต.ด่านทับตะโก และลงสู่อ.ด่านมะขามเตี้ยจ.กาญจนบุรี ทางจ.ราชบุรี จึงได้มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้เตรียมขนย้ายข้าวของไปอยู่ในที่ปลอดภัยด้วย
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
04/10/53
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น