
แม่วอนผู้ใจบุญช่วยลูกชายที่เป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาวมาช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 9 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีเด็กชายที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว และกำลังรอผู้ใจบุญมาช่วยเหลือ หลังทราบข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ก็พบบ้านเลขที่ดังกล่าวปลูกเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง ที่ใต้ถุนบ้านพบกับเด็กชายศราวุฒิ หรือน้องเป็บซี่ สร้อยสุวรรณ อายุ 4 ปี อยู่กับมารดาคือนางสายพิณ เต็มทวี อายุ 33 ปี ตามลำตัวและใบหน้าของน้องเป๊ปซี่นั้นมีตุ่มเล็กๆขึ้นเต็มใบหน้า ศรีษะของน้องเป็บซี่ก็โล้นเพราะผมร่วงไปหมด
จากการสอบถามนางสายพิณผู้เป็นแม่ก็เล่าให้ฟังว่า น้องเป็บซี่เป็นลูกชายคนเดียวของตนกับนายประวิทย์ สร้อยสุวรรณ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นพ่อ ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3โรงเรียนวัดสนามสุทธาวาส หรือเขาหลักไก่ ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ ตอนที่เกิดมาน้องเป็บซี่ก็เหมือนเด็กปกติทั่วไป จนเมื่อตอนอายุได้ 1 ปี 9 เดือน น้องเป็บซี่เริ่มไม่ค่อยอยากจะเดินและบ่นว่าปวดขา มีอาการป่วยบ่อยมากจึงพาไปที่โรงพยาบาลราชบุรี แพทย์ได้ทำการเจาะเลือดไปตรวจ และสงสัยว่าจะเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว จึงได้ส่งตัวไปทำการตรวจซ้ำที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ มหาราชินี ที่กรุงเทพฯ ซึ่งผลการตรวจก็พบว่าเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาวจริง จึงส่งตัวรักษาต่อที่สถาบันมะเร็ง ซึ่งรักษามาเกือบจะ 3 ปีแล้ว ทั้งให้คีโม และฉายแสงจนทำให้ลูกชายมีผื่นขึ้นทั้งตัวและผมก็ร่วงไปหมด
สงสารลูกมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้อย่างไรก็ได้แต่พยายามปลอบลูกว่าอีกไม่นานก็จะหาย แม้ว่าจะต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเท่าไหร่ก็ไม่เคยท้อ ทุกครั้งที่ไปพบหมอตามใบนัดก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เวลาไม่มีก็จะหยิบยืมญาติๆหรือคนข้างบ้านไปเพราะรายได้จากการรับจ้างของพ่อแม่รวมกันวันละแค่ 200 บาท บางวันก็ไม่ได้ จากเดิมที่เคยปลูกผักขายก็มาประสบปัญหาภัยแล้งไม่มีน้ำรดพืชผัก ทำให้พืชผักแห้งตายหมด
ตอนนี้ก็ได้แต่ออกหารับจ้างไปวันๆมาเป็นค่าใช้จ่ายและเก็บไว้เป็นค่ารถและค่ายาในการพาลูกไปหาหมอ ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครเพราะตนเองก็ไม่ค่อยมีความรู้อะไร แต่อยากให้ลูกหายจากอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ จึงอยากวอนให้ผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลูกชาย ถึงแม้ว่าหมอจะไม่ยืนยันว่าจะหายเป็นปกติแต่ก็หาทางรักษาลูกจนกว่าจะหมดหนทางรักษา
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
16/06/53
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น