วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553

โจ๋เมืองโอ่งดุ จ่อยิงหัวนักฟุตบอลดับคาที่ในร้านข้าวต้ม




โจ๋เมืองโอ่งดุจ่อยิงหัวนักฟุตบอลดับคาที่ในร้านข้าวต้ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส อีก 1 ราย

เมื่อเวลา 02.45 น. วันที่ 27 ก.พ. 53 พ.ต.ท.สมศักดิ์ พิกุลทอง สารวัตรเวรสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่บริเวณร้านข้าวต้มนายปอ เลขที่ 1/2-3 ริมถนนเพชรเกษม ต.หน้าเมือง อ.เมือง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อานุภาพ ศรีนวล ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.ชัยรัตน์ บัวขม รองผกก.ป.สภ.เมือง พ.ต.ท.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ รองผกก.สส.สภ.เมือง พ.ต.อ.ธีราพร วิจิตรบรรณาการ สวป.สภ.เมืองและ ร.ต.อ.ศักราช สาครไพศาล สว.สส.สภ.เมือง ทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยมูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์
ในที่เกิดเหตุพบว่าโต๊ะ เก้าอี้ ภายในร้านข้าวต้มนั้นล้มระเนระนาด ภายในร้านพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อต่อมา คือนายธันวา น้อยประสิทธิ์ อายุ 24 ปี บ้านอยู่หมู่ 7 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่คอ อาการสาหัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลราชบุรี นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทราบชื่อคือนายอุดมพงษ์ ใจอ่อน อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 7 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่โหนกแก้มซ้ายทะลุคอด้านขวา ส่วนอีกรายคือนายพิชัย ลบช้าง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 7 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก ถูกยิงเข้าที่ คอด้านขวาทะลุซ้าย
ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 7.65 ตกอยู่จำนวน 3 ปลอก และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่าฟีโน่ สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คาดว่าจะเป็นรถของกลุ่มมือปืน เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนในเบื้องต้นนั้นทราบว่า กลุ่มของมือปืนนั้นมาทั้งหมด 14 คน มานั่งดื่มเหล้าและสั่งข้าวต้มกินอยู่ด้านในของร้าน ส่วนกลุ่มของผู้ตายนั้นเป็นนักฟุตบอลทีมสโมสรชมรมดำเนินบลูเวฟ ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลของต.บ้านไร่ อ.ดำเนินฯ จำนวนกว่า 30 คน ได้กลับจากการแข่งขันฟุตบอลที่สนามวัดบ้านไร่และพากันมานั่งกินข้าวต้มที่โต๊ะด้านหน้าร้านดังกล่าว
ซึ่งกลุ่มของมือปืนหนึ่งในนั้นได้ลุกขึ้นเดินมาชักปืนจ่อยิงกลุ่มผู้ตายจำนวน 3 นัด โดยที่ไม่ได้รู้จักหรือมีเรื่องกันมาก่อน ท่ามกลางสายตาของลูกค้าที่มานั่งกินข้าวต้มในร้านกว่า 10 โต๊ะ จากนั้นได้วิ่งหนีออกจากร้านไปส่วนพรรคพวกที่เหลือต่างก็พากันวิ่งหนีออกจากร้านเช่นกัน ซึ่งเพื่อนๆของผู้ตายที่นั่งโต๊ะเดียวกัน เห็นเหตุการณ์ตลอดและจำหน้ามือปืนได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พาพยานทั้งหมดมาสอบสวนหาสาเหตุและหาข้อมูลของคนร้ายเพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
01/03/53

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น่าสงสาร...ไม่รู้ว่าทำไมวัยรุ่นเดี๋ยวนี้ ไม่รู้จักอดทน อดกลั้น ไม่รู้จักระงับความโกรธ..หรือว่าการให้ศึกษาและการศาสนาจะเสื่อมถอยลง ปืนและกระสุนก็พกพาหาง่าย...หากมีแค่มือ ไม้ ตีกันชกกัน ก็ยังพอหัวร้างข้างแตก...แต่นี้พอเหนี่ยวไกปืนไปแล้ว..ถึงกับชีวิตทันที...ใครที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมดูแลอาวุธปืนและกระสุน..ช่วยกันดูหน่อยนะครับ...หากเป็นอย่างนี้ คงไม่มีใครกล้าไปนั่งกินข้าวต้มอีกแล้ว เพราะเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน