วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ป่าไม้บุกจับเหมืองแร่เถื่อนของนายตำรวจเกษียณราชการ


ป่าไม้บุกจับเหมืองแร่เถื่อนของนายตำรวจ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีการลักลอบขุดแร่เฟสปา

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ก.พ. 53 นายบุญสืบ สมัครราช ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ได้สนธิกำลังกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) อำเภอบ้านคา เจ้าหน้าที่สปก. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านคา เจ้าหน้าที่ตชด.137 และทหารจากหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ
เข้าตรวจสอบที่บริเวณไร่มันสำปะหลัง หมู่ 3 บ้านร่องเจริญ ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีการลักลอบขุดแร่เฟสปา ซึ่งจากการเข้าไปตรวจสอบ พบว่าที่บริเวณดังกล่าวนั้น มีการขุดนำแร่เฟสปาขึ้นมาพร้อมทั้งมีการคัดแยกแร่ในส่วนที่ดีแยกไว้ โดยใช้ทั้งเครื่องมือหนัก ทั้งรถแบคโคร แท่นขุดเจาะ และใช้วัตถุระเบิดระเบิดแร่ขึ้นมา
นอกจากนี้ยังพบสายไฟ แก๊ประเบิด และปุ๋ยยูเรีย ในพื้นที่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นของ พ.ต.ต.ศรีเธียน (สุธีร์) ณ สงขลา อดีตนายตำรวจเกษียนราชการ ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 1,000 ไร่ และตรงบริเวณที่มีการลักลอบขุดแร่นั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบไปยังหน่วยงาน ทั้งอุตสาหกรรม และกรมทรัพย์ฯแล้ว พบว่าไม่ได้มีการขออนุญาติทำสัมปทานเหมืองแร่ในพื้นที่ดังกล่าว
และมีการเคลื่อนย้ายรถแบคโครออกนอกพื้นที่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง เนื่องจากมีสายของเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปตรวจสอบพร้อมทั้งถ่ายรูปและจดเลขเครื่องของรถแบคโครไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้พบรถแบคโคร คันดังกล่าวไปจอดที่บริเวณหน้ารีสอร์ทของพ.ต.ต.ศรีเธียน จึงได้เข้าทำการตรวจนสอบ แต่ถูกพ.ต.ต.ศรีเธียน และภรรยามาห้ามไม่ยอมให้มีการตรวจสอบพร้อมทั้งท้าทายขอหมายตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ และเตรียมฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่บุกรุกเข้าไปในพื้นที่
พร้อมทั้งตะโกนท้าทายให้เจ้าหน้าที่เข้ามาจับตนเอง ส่วนพื้นที่ที่มีการขุดแร่นั้น พ.ต.ต.ศรีเธียน ก็อ้างว่าเป็นเหมืองแร่เดิมที่น้องชายเคยทำไว้แต่ขณะนี้เลิกไปแล้ว จึงได้ให้คนอื่นเช่าต่อโดยไม่ทราบว่าทำอะไรในพื้นที่
ส่วนแร่ที่กองอยู่ในพื้นที่เหมืองแร่นั้นก็ไปขนมาใส่ต้นไม้ที่ปลูกไว้โดยอ้างว่ามีแร่ธาตุอาหารที่พืชต้องการ และพื้นที่ทั้งหมดนั้นก็มีหลักฐานในการครอบครองมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2516 โดยหลังเกษียณอายุราชการก็ได้ออกมาทำไร่และเตรียมสร้างรีสอร์ท
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปชี้แจงว่า การเข้ามาตรวจสอบนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพราะได้รับการร้องเรียนมา และพื้นที่ดังกล่าวก็อยู่ในเขต สปก. ไม่มีรั้วกั้น
ส่วนเรื่องการแสดงสิทธิ์ในพื้นที่นั้นก็ให้ทาง พ.ต.ต.ศรีเธียน นำหลักฐานมาแสดงที่มีอยู่มาแสดง แต่ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา มีความผิดตามพรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 แผ้วถางป่า ทำลายป่า เข้ายึดถือครอบครองเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติ มีความผิดตามพรบ.อาวุธปืน พ.ศ.2490 ห้ามมิให้ผู้ใด ทำ ซื้อ มีใช้ สิ่งนำเข้า ค้าหรือ จำหน่ายด้วยประการใดๆซึ่งวัตถุระเบิด เว้นแต่ได้รับอนุญาติ

ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
25/02/53

ไม่มีความคิดเห็น: