กรมการแพทย์ จัดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้สูงอายุแบบเบ็ดเสร็จจังหวัดราชบุรี ปี 2553 เพื่อให้บริการช่วยเหลือผู้พิการและผู้สูงอายุที่มีปัญหาในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่ตลาดเพชรเมืองราช นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิด เนื่องในโอกาสงานฉลองพระชนมายุ 84 พรรษา สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยมีนายสมศักดิ์ โยนกพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายแพทย์จินดา แอกทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี นายแพทย์บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ และพนักงานสาธารณสุข พนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด ฯลฯ เข้าร่วมในพิธีเปิดโครงการ
นายมานิต กล่าวว่า จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2550 ระบุว่าประเทศไทยมีจำนวนคนพิการทั้งสิ้น 1,871,860 คน ส่วนใหญ่อยู่ในเขตชนบท โดยกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป มีความพิการมากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ มากถึง 2 เท่าตัว นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโดยพบว่าประชากรมรอายุยืนยาวขึ้น ผู้ชายมีอายุเฉลี่ย 68 ปี ผู้หญิง 75 ปี ทำให้ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9 ในปี 2543 เป็นร้อยละ 11 ในปี 2553 จึงคาดว่าจะมีผู้พิการเป็นผู้สูงอายุมากขึ้นด้วย รัฐบาลจึงมีนโยบายจะให้เบี้ยยังชีพช่วยเหลือผู้พิการที่ผ่านการตรวจขึ้นทะเบียนรับรองเป็นผู้พิการเดือนละ 500 บาท ตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 เป็นต้นไป จากสถิติตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2537 – 31 สิงหาคม 2552 มีผู้พิการทุกประเภทได้รับจดทะเบียน 8 แสนคนเท่านั้น กระทรวงสาธารณสุขจะให้ อสม. ทั่วประเทศกว่า 9 แสนคนที่มีทุกหมู่บ้าน ช่วยกันค้นหาผู้พิการในพื้นที่ที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนให้เสร็จก่อนวันที่ 3 ธันวาคม 2552 ผู้พิการทั้งหมดจะได้รับการตรวจรับรองและออกบัตรประจำตัวผู้พิการทั่วประเภท จากนั้นสามารถนำบัตรไปรับสิทธิต่างๆได้ และสามารถเข้ารับบริการฟื้นฟูทางการแพทย์ รวมทั้งกายอุปกรณ์เทียมเพื่อแก้ไขความพิการได้ด้วย
ด้าน น.ต. บุญเรือง ไตรเรืองวรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2549 – 2552 กรมการแพทย์ได้จัดโครงการกรมการแพทย์พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้สูงอายุแบบเบ็ดเสร็จ สามารถให้บริการช่วยเหลือผู้พิการและผู้สูงอายุที่มีปัญหาเช่น มอบรถนั่ง ไม้เท้าค้ำยัน ขาเทียม ทำฟันเทียม อุปกรณ์ช่วยฟังรวมทั้งสิ้น 53,105 ราย จากการประเมินผลผู้รับบริการมีความพึงพอใจอย่างยิ่ง และเห็นควรจัดให้มีบริการเพื่อช่วยเหลือคนพิการและผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2553 จะดำเนินการฟรีใน 4 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี นราธิวาส ร้อยเอ็ด และกำแพงเพชร ใช้งบประมาณ 11 ล้านบาท แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกเป็นการให้บริการหล่อแบบตอแขน – ขา แก่คนพิการ บริการทำรากฟันเทียม พิมพ์ปากรองฟันในงานใส่ฟันปลอมไว้ก่อน ส่วนช่วงที่ 2 จะเป็นการจัดให้บริการแบบเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว โดยจัดทีมบริการตรวจประเมินความพิการ เพื่อจดทะเบียนบริการทางกายภาพกิจกรรมบำบัด ผลิตแขน – ขาเทียม มอบอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ ตรวจวัดความบกพร่องทางสายตาและมอบแว่นตา ตรวจคัดกรองเบาหวานขึ้นจอประสาทตา ให้บริการทันตกรรม ขูดหินปูน ถอน – อุดฟัน รักษาครองรากฟัน ใส่ฟันเทียม คัดกรองและฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อม รวมทั้งการอบรมด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และให้ความรู้แก่ญาติตลอดจนผู้ดูแลคนพิการ
ภาพ / ข่าว คมปิยะ 19 – 11 - 52
นายมานิต กล่าวว่า จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2550 ระบุว่าประเทศไทยมีจำนวนคนพิการทั้งสิ้น 1,871,860 คน ส่วนใหญ่อยู่ในเขตชนบท โดยกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป มีความพิการมากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ มากถึง 2 เท่าตัว นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรโดยพบว่าประชากรมรอายุยืนยาวขึ้น ผู้ชายมีอายุเฉลี่ย 68 ปี ผู้หญิง 75 ปี ทำให้ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9 ในปี 2543 เป็นร้อยละ 11 ในปี 2553 จึงคาดว่าจะมีผู้พิการเป็นผู้สูงอายุมากขึ้นด้วย รัฐบาลจึงมีนโยบายจะให้เบี้ยยังชีพช่วยเหลือผู้พิการที่ผ่านการตรวจขึ้นทะเบียนรับรองเป็นผู้พิการเดือนละ 500 บาท ตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 เป็นต้นไป จากสถิติตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2537 – 31 สิงหาคม 2552 มีผู้พิการทุกประเภทได้รับจดทะเบียน 8 แสนคนเท่านั้น กระทรวงสาธารณสุขจะให้ อสม. ทั่วประเทศกว่า 9 แสนคนที่มีทุกหมู่บ้าน ช่วยกันค้นหาผู้พิการในพื้นที่ที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนให้เสร็จก่อนวันที่ 3 ธันวาคม 2552 ผู้พิการทั้งหมดจะได้รับการตรวจรับรองและออกบัตรประจำตัวผู้พิการทั่วประเภท จากนั้นสามารถนำบัตรไปรับสิทธิต่างๆได้ และสามารถเข้ารับบริการฟื้นฟูทางการแพทย์ รวมทั้งกายอุปกรณ์เทียมเพื่อแก้ไขความพิการได้ด้วย
ด้าน น.ต. บุญเรือง ไตรเรืองวรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2549 – 2552 กรมการแพทย์ได้จัดโครงการกรมการแพทย์พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้สูงอายุแบบเบ็ดเสร็จ สามารถให้บริการช่วยเหลือผู้พิการและผู้สูงอายุที่มีปัญหาเช่น มอบรถนั่ง ไม้เท้าค้ำยัน ขาเทียม ทำฟันเทียม อุปกรณ์ช่วยฟังรวมทั้งสิ้น 53,105 ราย จากการประเมินผลผู้รับบริการมีความพึงพอใจอย่างยิ่ง และเห็นควรจัดให้มีบริการเพื่อช่วยเหลือคนพิการและผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2553 จะดำเนินการฟรีใน 4 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี นราธิวาส ร้อยเอ็ด และกำแพงเพชร ใช้งบประมาณ 11 ล้านบาท แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกเป็นการให้บริการหล่อแบบตอแขน – ขา แก่คนพิการ บริการทำรากฟันเทียม พิมพ์ปากรองฟันในงานใส่ฟันปลอมไว้ก่อน ส่วนช่วงที่ 2 จะเป็นการจัดให้บริการแบบเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว โดยจัดทีมบริการตรวจประเมินความพิการ เพื่อจดทะเบียนบริการทางกายภาพกิจกรรมบำบัด ผลิตแขน – ขาเทียม มอบอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ ตรวจวัดความบกพร่องทางสายตาและมอบแว่นตา ตรวจคัดกรองเบาหวานขึ้นจอประสาทตา ให้บริการทันตกรรม ขูดหินปูน ถอน – อุดฟัน รักษาครองรากฟัน ใส่ฟันเทียม คัดกรองและฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อม รวมทั้งการอบรมด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และให้ความรู้แก่ญาติตลอดจนผู้ดูแลคนพิการ
ภาพ / ข่าว คมปิยะ 19 – 11 - 52
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น