พ.ต.ท.นิวัต สวัสดี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุมีคนร้ายบุกโจรกรรมเงินสดและพระเครื่องของวัดอ้ออีเขียวต.กรับใหญ่ ไปจำนวนมาก จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ฉลองชัย ศรีวิบูลย์ สว.สส.รุดไปตรวจสอบ ที่บริเวณหน้ากุฏิของพระครูสันติธรรมาภิรัต เจ้าอาวาสวัดอ้ออีเขียว เจ้าคณะตำบลกรับใหญ่พบชาวบ้านจำนวนหนึ่งต่างก็มามุงดู และวิภาควิจารณ์ สาปแช่งคนร้ายที่ไม่กลัวบาปกรรม โจรกรรมทรัพย์สินของทางวัดไปที่ประตูกุฏิด้านหลังถูกงัดจนพัง ภายในห้องข้าวของถูกลื้อกระจุยกระจาย ตู้รับบริจาคเงินและย่ามส่วนตัวของพระครู ถูกค้นเอาทรัพย์สินของมีค่าไปจนหมด และที่บริเวณประตูห้องพบพระบูชาขนาดต่างๆ ที่คนร้ายเตรียมจะขนไป แต่เอาไปไม่ได้ พระครูสันติธรรมาภิรัต เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะที่ทำวัตรเช้าในพระอุโบสถ ได้ยินเสียงเอะอะ แล้วพบชาวบ้านมุงอยู่บริเวณหน้ากุฏิ จึงได้ออกมาดู ทราบว่าภายในกุฏิถูกงัด คนร้ายได้โจรกรรมทรัพย์สินไปเป็นเงินสดประมาณ 3 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินที่ตู้รับบริจาคและเป็นเงินสดที่เบิกมาจากธนาคาร เพื่อเตรียมจัดงานครบรอบวันมรณภาพ 13 ปี ของพระครูรัตนกิจโสภน หรือหลวงพ่อพูน เจ้าอาวาสองค์ก่อน นอกจากนั้นที่ในย่ามและโต๊ะเก็บของเก่า ถูกโจรกรรมพระเครื่องเลี่ยมทองไปจำนวนกว่า 50 องค์ เป็นพระเครื่องบูชารุ่นยอดนิยมต่างๆ อาทิ พระสมเด็จพิมพ์วัดระฆัง พระปากน้ำรุ่น 6 เหรียญหลวงพ่อปานวัดบางโคนม เหรียญหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินนับค่าไม่ได้ ในส่วนของทองคำ มีมูลค่า ประมาณ 3 แสนบาท พระครูสันติธรรมาภิรัต กล่าวต่อว่า ข้าวของที่สูญหายไปไม่เสียดาย แต่เงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาที่มาทำบุญ ได้ถูกคนใจบาปโจรกรรมไป รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถรักษาไว้ได้ พระลูกวัดรูปหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า มีคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คนอายุประมาณ 20-22 ปี ขี่จักรยายยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีเลือดหมู ไม่ทราบป้ายทะเบียน มาจอดข้างกุฏิ คนขับรูปร่างอ้วน เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ ส่วนคนซ้อนท้ายรูปร่างผอม สวมเสือกันหนาวแบบมีหมวก สะพายกีต้าร์ ทำทีเข้ามาหาหลวงพ่อเพื่อจะให้ช่วยเจิมรถจึงบอกไปว่าหลวงพ่อ กำลังทำวัตรอยู่ และไม่ได้ติดใจอะไร เมื่อคนร้ายทราบว่า หลวงพ่ออยู่ในอุโบสถ จึงได้ช่วยกันงัดประตูห้อง โจรกรรมทรัพย์สินของหลวงพ่อไปเป็นจำนวนมาก ต่อมามีชาวบ้านมาพบเห็น 2 คนร้ายท่าทางมีพิรุธ จึงเข้าไปสอบถาม คนร้ายบอกว่า จะมายืมของวัดไปจัดงาน จากนั้น ทั้งสองก็รีบขึ้นรถจักรยานพร้อมทรัพย์สิน ขับออกไปอย่างเร็วซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุให้สายตรวจสกัดจับกุมแต่ก็ไม่พบร่องรอยของสองคนร้าย
ภาพ/ข่าว ประทีป 03-11-52
ภาพ/ข่าว ประทีป 03-11-52
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น