: สำนักงานปกครองจังหวัดราชบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริง การบุกรุกที่ดินของรัฐ บ้านพุยาง อ.ปากท่อ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและเกิดความถูกต้องในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐที่สำนักงานเทศบาลตำบลทุ่งหลวง นายทวี นริศศิริกุล ปลัดจังหวัดราชบุรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการตรวจสอบข้อเท็จจริง การบุกรุกที่ดินของรัฐ บ้านพุยาง อ.ปากท่อ
ด้วยคณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ จังหวัดราชบุรีได้นำเรื่องการบุกรุกที่ดินของรัฐ ( ป่าสงวนแห่งชาติ ) เข้าพิจารณาในที่ประชุม สืบเนื่องมาจาก อำเภอปากท่อได้แจ้งให้กองอำนวยการการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ได้ตรวจสอบพบการตัดไม้ทำลายป่าบริเวณ หมู่ 12 ต.ทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ พื้นที่ที่ถูกตัดไม้เป็นพื้นที่ที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก ซึ่งอำเภอปากท่อ รายงานว่าพื้นที่ดังกล่าว ไม่สามารถชี้เขตได้ว่าพื้นที่ใดเป็นป่าสงวน พื้นที่ใดเป็นพื้นที่ที่ออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี จึงมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดราชบุรี เข้าไปตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ว่า พื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างสมบูรณ์ มีร่องรอยการแผ้วถางต้นไม้ยืนต้น เพื่อจะนำไปจำหน่ายและเตรียมการพัฒนาพื้นที่ต่อไป
ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ออกโดยอำเภอปากท่อ เมื่อ พ.ศ. 2539 แต่ไม่สามารถตรวจสอบหลักฐานได้ เนื่องจากเป็นเอกสารที่จัดทำขึ้นจากภาพถ่ายทางอากาศ เมื่อปี พ.ศ. 2520 จากการตรวจสอบด้วยระบบสัญญาณดาวเทียม GPS ปรากฏว่า ที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพุยาง และป่าพุสามซ้อน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทยประจันเฉลิมพระเกียรติ ผลการตรวจสอบยืนยันว่า พื้นที่ที่ออกเอกสารสิทธิ์ทั้งสองแปลงอยู่ในเขตป่าสงวน ป่าพุยางและป่าพุสามซ้อนจริง แต่ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรี สาขาปากท่อ ได้รายงานให้ทราบว่า การออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว เป็นไปโดยถูกต้อง
เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและเกิดความถูกต้อง ที่ประชุมคณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินของรัฐ จังหวัดราชบุรี จึงมีมติให้ตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง การบุกรุกที่ดินของรัฐในเขตพื้นที่ บ้านพุยาง หมู่ 12 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ โดยรวบรวมข้อมูลเอกสาร หลักฐานและข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการปกครองที่ดินของบุคคลใดๆในที่ดินของรัฐ หากพบว่าการดำเนินการโดยมิชอบหรือทุจริต ดำเนินการไปโดยผิดพลาด คลาดเคลื่อน ให้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ในฐานะคณะอนุกรรมการ การแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ(กบร.จังหวัด) ให้ทราบภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่ง
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์
ด้วยคณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ จังหวัดราชบุรีได้นำเรื่องการบุกรุกที่ดินของรัฐ ( ป่าสงวนแห่งชาติ ) เข้าพิจารณาในที่ประชุม สืบเนื่องมาจาก อำเภอปากท่อได้แจ้งให้กองอำนวยการการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ได้ตรวจสอบพบการตัดไม้ทำลายป่าบริเวณ หมู่ 12 ต.ทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ พื้นที่ที่ถูกตัดไม้เป็นพื้นที่ที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก ซึ่งอำเภอปากท่อ รายงานว่าพื้นที่ดังกล่าว ไม่สามารถชี้เขตได้ว่าพื้นที่ใดเป็นป่าสงวน พื้นที่ใดเป็นพื้นที่ที่ออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี จึงมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดราชบุรี เข้าไปตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ว่า พื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างสมบูรณ์ มีร่องรอยการแผ้วถางต้นไม้ยืนต้น เพื่อจะนำไปจำหน่ายและเตรียมการพัฒนาพื้นที่ต่อไป
ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ออกโดยอำเภอปากท่อ เมื่อ พ.ศ. 2539 แต่ไม่สามารถตรวจสอบหลักฐานได้ เนื่องจากเป็นเอกสารที่จัดทำขึ้นจากภาพถ่ายทางอากาศ เมื่อปี พ.ศ. 2520 จากการตรวจสอบด้วยระบบสัญญาณดาวเทียม GPS ปรากฏว่า ที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพุยาง และป่าพุสามซ้อน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทยประจันเฉลิมพระเกียรติ ผลการตรวจสอบยืนยันว่า พื้นที่ที่ออกเอกสารสิทธิ์ทั้งสองแปลงอยู่ในเขตป่าสงวน ป่าพุยางและป่าพุสามซ้อนจริง แต่ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรี สาขาปากท่อ ได้รายงานให้ทราบว่า การออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว เป็นไปโดยถูกต้อง
เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและเกิดความถูกต้อง ที่ประชุมคณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินของรัฐ จังหวัดราชบุรี จึงมีมติให้ตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง การบุกรุกที่ดินของรัฐในเขตพื้นที่ บ้านพุยาง หมู่ 12 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ โดยรวบรวมข้อมูลเอกสาร หลักฐานและข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการปกครองที่ดินของบุคคลใดๆในที่ดินของรัฐ หากพบว่าการดำเนินการโดยมิชอบหรือทุจริต ดำเนินการไปโดยผิดพลาด คลาดเคลื่อน ให้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ในฐานะคณะอนุกรรมการ การแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ(กบร.จังหวัด) ให้ทราบภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่ง
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น