สำนักสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตราชบุรี จัดงานวันทหารผ่านศึก เพื่อน้อมคำนับต่อดวงวิญญาณของผู้กล้าทุกสมรภูมิที่พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เชิงเขาแก่นจันทร์ สำนักสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตราชบุรี นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และ พลตรี อชิตพล วัดบัว รองเจ้ากรมการทหารช่าง ราชบุรี จัดพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันทหารผ่านศึก 3 กุมภาพันธ์ เพื่อสดุดีทหารผู้กล้าของชาติ ที่ได้พลีชีพรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นับเป็นวีรกรรมที่น่ายกย่องสรรเสริญและรำลึกถึงดวงวิญญาณของทหารผู้กล้าซึ่งได้เสียสละชีวิตเป็นชาติพลีไปแล้ว
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันที่เราทั้งหลายจะได้เห็นดอกป๊อบปี้บานสะพรั่งไปทั่วราชอาณาจักร ดอกป๊อบปี้ สีแดง นั้น เป็นสัญลักษณ์แทน ทหารผ่านศึก ผู้พิทักษ์รักษาประเทศชาติให้มีเอกราชอธิปไตย สีแดงของดอกป๊อบปี้ คือ เลือกของทหารหาญที่ได้หลั่งชโลมแผ่นดินไว้ด้วยความกล้าหาญ เสียสละอันสูงสุด
สำหรับประเทศไทยแล้ว การจัดทำดอกป๊อบปี้เพื่อจำหน่ายในวันทหารผ่านศึกเกิดจากดำริของท่านผู้หญิงจงกล กิตติขจร ประธานสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก หรือมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในปัจจุบัน ที่ต้องดำเนินการหาทุนช่วยเหลือ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และครอบครัวทหารผ่านศึก ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศ จึงได้เลือกเอาดอกป๊อบปี้สีแดง ซึ่งมีประวัติเกี่ยวโยงถึงสมรภูมิฟลานเดอร์ส สมรภูมิเบลเยี่ยม และเนเธอแลนด์ระหว่างสัมพันธมิตร และเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยสงครามโลกครั้งนั้นทหารพันธมิตรได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสมรภูมินี้มากที่สุด จอมพลเอิร์ล ออฟ เฮก ผู้บัญชาการรบที่นั่นได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าพิศวงและน่าพิสมัยเกิดขึ้น ณ สมรภูมิดังกล่าว ในบริเวณหลุมฝังศพทหาร โดยมีดอกป๊อบปี้ป่าขึ้นอยู่เดียรดาษทั่วไป ทำให้เกิดเป็นลานสีแดงฉานสวยงาม ตั้งแต่นั้นมาดอกป๊อบปี้จึงกลายเป็นดอกไม้อนุสรณ์แห่งวีรกรรมของทหารผ่านศึกเตือนใจให้ระลึกถึงสีแดงของทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติ สำหรับประเทศไทยได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามต่างๆมาแล้ว โดยมีอนุสรณ์เชิดชูเกียรติปรากฏเป็นอนุสรณ์อยู่วีรกรรมของนักรบไทยในการรบได้ขจรขจายไปทั่วปรากฏต่อสายตาชาวโลก ฉะนั้นเพื่อระลึกถึงเกียรติภูมิของนักรบกล้าหาญ จึงได้กำหนดให้ดอกป๊อบปี้เป็นดอกไม้ที่ระลึกสำหรับทหารผ่านศึกไทยเช่นเดียวกันในต่างประเทศและมีการจำหน่ายในวันที่ระลึกทหารผ่านศึก (3 กุมภาพันธ์) ตั้งแต่ปี 2511 เป็นต้นมา
ภาพ/ข่าว
ภัทรพงศ์
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันที่เราทั้งหลายจะได้เห็นดอกป๊อบปี้บานสะพรั่งไปทั่วราชอาณาจักร ดอกป๊อบปี้ สีแดง นั้น เป็นสัญลักษณ์แทน ทหารผ่านศึก ผู้พิทักษ์รักษาประเทศชาติให้มีเอกราชอธิปไตย สีแดงของดอกป๊อบปี้ คือ เลือกของทหารหาญที่ได้หลั่งชโลมแผ่นดินไว้ด้วยความกล้าหาญ เสียสละอันสูงสุด
สำหรับประเทศไทยแล้ว การจัดทำดอกป๊อบปี้เพื่อจำหน่ายในวันทหารผ่านศึกเกิดจากดำริของท่านผู้หญิงจงกล กิตติขจร ประธานสโมสรสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก หรือมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในปัจจุบัน ที่ต้องดำเนินการหาทุนช่วยเหลือ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และครอบครัวทหารผ่านศึก ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศ จึงได้เลือกเอาดอกป๊อบปี้สีแดง ซึ่งมีประวัติเกี่ยวโยงถึงสมรภูมิฟลานเดอร์ส สมรภูมิเบลเยี่ยม และเนเธอแลนด์ระหว่างสัมพันธมิตร และเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยสงครามโลกครั้งนั้นทหารพันธมิตรได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสมรภูมินี้มากที่สุด จอมพลเอิร์ล ออฟ เฮก ผู้บัญชาการรบที่นั่นได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าพิศวงและน่าพิสมัยเกิดขึ้น ณ สมรภูมิดังกล่าว ในบริเวณหลุมฝังศพทหาร โดยมีดอกป๊อบปี้ป่าขึ้นอยู่เดียรดาษทั่วไป ทำให้เกิดเป็นลานสีแดงฉานสวยงาม ตั้งแต่นั้นมาดอกป๊อบปี้จึงกลายเป็นดอกไม้อนุสรณ์แห่งวีรกรรมของทหารผ่านศึกเตือนใจให้ระลึกถึงสีแดงของทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติ สำหรับประเทศไทยได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามต่างๆมาแล้ว โดยมีอนุสรณ์เชิดชูเกียรติปรากฏเป็นอนุสรณ์อยู่วีรกรรมของนักรบไทยในการรบได้ขจรขจายไปทั่วปรากฏต่อสายตาชาวโลก ฉะนั้นเพื่อระลึกถึงเกียรติภูมิของนักรบกล้าหาญ จึงได้กำหนดให้ดอกป๊อบปี้เป็นดอกไม้ที่ระลึกสำหรับทหารผ่านศึกไทยเช่นเดียวกันในต่างประเทศและมีการจำหน่ายในวันที่ระลึกทหารผ่านศึก (3 กุมภาพันธ์) ตั้งแต่ปี 2511 เป็นต้นมา
ภาพ/ข่าว
ภัทรพงศ์
1 ความคิดเห็น:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
แสดงความคิดเห็น