ฐิติพรรณ แววหงษ์ หรือ แก้ว วิโอล่า นักเรียนทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นำขบวนเยาวชนวิโอล่า แสดงเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ เศร้าสลดขึ้นถวายดอกไม้จันทน์ ส่งสมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมหลวงสู่สวรรคาลัย
ที่ลานกว้างหน้าเมรุวัดมหาธาตุวรวิหาร ราชบุรี ในพิธีการถวายพระเพลิงส่งเสด็จสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ท่ามกลางแวดวงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้นำหัวหน้าหน่วยงานต่างๆและประชาชนที่พร้อมใจกันเข้าร่วมพิธีกันอย่างเนืองแน่น ในมณฑลพิธีถวายพระเพลิง ซึ่งครอบคลุมด้วยบรรยากาศเศร้าซึมโศกสลดด้วยเสียงดนตรีวงปี่พาทย์บรรเลงวิเวกแว่ว สอดประสานกับการแสดงของดนตรีตะวันตกอย่างวงวิโอล่า ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของการแสดงจากเยาวชนของชาติเข้าร่วมแสดงเพื่อน้อมรำลึกอย่างลงตัวประหนึ่งเป็นการประชันจากเครื่องดนตรีวงปี่พาทย์วงใหญ่ ประชันกับเครื่องดนตรีสากลจากวงวิโอล่า สะกดทุกสายตาและโสตสัมผัสจับจ้องอยู่กับการแสดงอย่างชื่นชม
ฐิติพรรณ แววหงษ์ หรือ แก้ว วิโอล่า สมาชิกวงแบ๊งค๊อกซิมโฟนี่ ออเครสต้า นำลูกศิษย์ตัวน้อยๆเข้าแสดงดนตรีหน้าพระฉายาลักษณ์ เริ่มจากสายฝน บทเพลงพระราชนิพน์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพลงพระราชนิพนธ์ สายฝน หรือ ฟอลลิ่ง เรน เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 3 ทรงพระราชนิพนธ์ ใน พ.ศ. 2489 ขณะทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช
การแสดงในเพลงที่สองคือ มีนูเอต นัมเบอร์ทู ของ เจ เอสบ๊าค และจบลงด้วยเพลงแสงหนึ่ง เพลงที่แต่งขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระพี่นาง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา
การแสดงครั้งนี้ ฐิติพรรณ แววหงษ์ นำเยาวชนนักเรียนอนุบาลราชบุรี อิงลิชโปรแกรม ลูกศิษย์คุณฐิติพรรณ เข้าร่วมแสดงคือ
1. ด.ญ. อารียา นารถติกร ชั้น ป.5
2. ด.ญ. พริมา รุ่งพรชัย ชั้น ป.5
3. ด.ญ. ศิรดา ศรีสวรรค์ ชั้น ป.5
4. ด.ญ. พีรดา เทียนรุ่งโรจน์ ชั้น ป.4
5. ด.ญ. ศวิตา สุนทรศานติก ชั้น ป.4
6. ด.ญ. สุทธิดา แพท่าไม้ ชั้น ป.3
7. ด.ญ. พีรดา รุ่งพรชัย ชั้น ป.2
ฐิติพรรณ แววหงษ์ หรือ แก้ว วิโอล่า ถือกำเนิดที่จังหวัดราชบุรีเป็นหลานสาวสุดรักของพันโทวสันต์ กับคุณยี่โถ จอมทอง เข้าเรียนหนังสือครั้งแรกที่โรงเรียนอนุบาลสายสิริวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนของคุณยี่โถเอง จากนั้นจึงเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนนารีวิทยา ราชบุรี นักดนตรีวิโอล่าคนนี้เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2516 เธอเริ่มเรียนวิโอล่าเมื่ออายุ 13 ปี กับอาจารย์ภารดี ไตรวิทยาคุณ วิทยาลัยนาฏศิลป์ กรมศิลปากร ต่อมาจึงได้ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเรียนวิโอล่ากับอาจารย์สุทิน ศรีณรงค์ จากนั้นเธอจึงได้ยึดมั่นบนถนนแห่งดนตรี โดยได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ วิคทอเรี่ยน คอลเลจ อ๊อฟ อาร์ต ยูนิเวอร์ซิตี้ อ๊อฟ เมลล์เบิร์น ซึ่งเป็นสถาบันดนตรีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงเมลล์เบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ทำให้เธอได้มีโอกาสเรียนวิโอล่ากับปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรเลีย ได้แก่ นายแก๊ปบิ้ลล์ ฮาโรแลน ซึ่งเป็นสมาชิกของวง เมลล์เบิร์น ซิมโฟนี่ ออเครสต้า จอห์นลิ้น ซึ่งเป็นศิษย์ของ คิม แคสแคสเชี่ยน ปรมาจารย์ชาวเยอรมัน และ ยูริ บอสแมท ปรมาจารย์ชาวรัสเซีย
ต่อมาเธอจึงได้ศึกษาต่อปริญาโทด้านการแสดงวิโอล่าที่มหาวิทยาลัยโมนาส ประเทศออสเตรเลีย โดยในระหว่างนั้นเธอได้ฝึกฝนทักษะการแสดงวิโอล่ากับ แคมธรีน บล๊อคแมน ซึ่งเป็น พริ้นซิเปิ้ล ของ ไวโอล่า เซคชั่น ของ เมลล์เบิร์น ซิมโฟนี่ ออเครสต้า ได้เข้าเรียนเชมเบอร์มิวสิคกับ มาร์ค โมคาลัสสกี้ ซึ่งเป็นแอสโซซิเอท คอนเสิร์ต มาสเตอร์ ของ เมลล์เบิร์น ซิมโฟนี่ ออเครสต้า เมื่อเธอจบการศึกษาจากเมลล์เบิร์นแล้ว เธอจึงได้ศึกษาต่อที่สถาบันดนตรีที่มีชื่อเสียงของประเทศเยอรมนีคือมหาวิทยาลัย ดนตรีโคโลญจ์ เมืองอาเค่น โดยได้เรียนกับโปรเฟสเซอร์ มาสสิโน แพรีส ด้วยทุนการศึกษาจากกองทุน เพื่อส่งเสริมการศึกษาดนตรีของเยาวชน หรือทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ในภายหลัง
ฐิติพรรณ ทำหนังสือขอทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ ผ่านวง แบ๊งค๊อก ซิมโฟนี่ ออเครสต้า และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวง ทรงพระราชทานให้ ฐิติพรรณ ได้กล่าวถึงความซาบซึ้งต่อพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ไว้ว่า ดิฉันรู้สึกประทับใจที่ทรงให้โอกาสแก่นักเรียน
ทุกคน ไม่เช่นนั้นดิฉันอาจเรียนไม่จบ เนื่องจากในช่วงนั้นเศรษฐกิจไม่ดี เป็นเวลาที่ดิฉันลำบากมากที่สุดในเวลาที่ไม่มีใครสนับสนุน การเรียนการดนตรีคลาสสิกเป็นเรื่องแปลกๆที่ในบ้านเราไม่มีผู้สนับสนุนไม่มีทุนให้เลย นอกจากเราจะต้องไปหาทุนเองที่เมืองนอก พระองค์ทำให้ดิฉันได้เรียนในสิ่งที่ดิฉันอยากเรียน
พระองค์ได้ทรงพิจารณาในด้านความพยายามในการพัฒนาตนเองของนักเรียนในอนาคต นอกเหนือไปจากความสามารถของนักเรียนด้วยโดยในความเห็นส่วนตัวนั้น ทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าเป็นการมอบโอกาสให้นักเรียนทุกคนได้ศึกษาต่อในด้านที่ตนเองมีความสนใจอย่างแท้จริง สำหรับเหตุการณ์ประทับใจที่สุดนั้น คือการแสดงหน้าพระพักตร์ที่พระราชวังพญาไท ซึ่งในขณะนั้นดิฉันได้รับพระราชทานดอกไม้จากพระหัตถ์พระองค์ท่าน
ในเวลานี้ไม่มีพระองค์ท่านอยู่กับเราแล้ว ก็ยังคิดถึงทุกครั้งยังจดจำสายพระเนตรแห่งความเอื้ออาทร พระพักตร์ของพระองค์ท่านเวลาที่ทอดพระเนตรการแสดงของดิฉัน พระองค์ท่านจะอยู่ในใจดิฉันตลอดไปและจะสานต่อพระปณิธานของพระองค์ท่าน พระองค์เคยมีรับสั่งกับดิฉันไว้ว่าทุนการศึกษาที่ดิฉันได้รับนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นทุนได้เปล่า แต่มีพระประสงค์จะให้ดิฉันนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปทำชื่อเสียงให้ปรากฏต่อนานาประเทศในฐานะนักดนตรีคลาสสิกจากประเทศไทย จะต้องมีหน้าที่เผยแพร่และพัฒนาดนตรีคลาสสิกในประเทศไทยด้วย
ปัจจุบัน ฐิติพรรณ แววหงส์ หรือแก้ว วิโอล่า เป็นสมาชิกวงแบ๊งค๊อก ซิมโฟนี่ ออเครสต้า และเป็นอาจารย์สอนไวโอลีนและวิโอล่าที่โรงเรียน แบ๊งค๊อกซิมโฟนี่ มิวสิคสคูล เป็นอาจารย์พิเศษที่คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒประสานมิตร อาจารย์พิเศษที่คณะนาฏศิลป์และดุริยางค์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และเคยเป็นอาจารย์สอนไวโอลีนและวิโอล่าที่มหาวิยาลัยมหิดล
เป้าหมายในอนาคตของแก้ว วิโอล่า เธอมีเป้าหมายชัดเจนว่า เธอจะเป็นนักดนตรีที่สามารถเล่นดนตรีได้ดี ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม รวมทั้งยังมุ่งมั่นตั้งใจในการเผยแพร่ความรู้ที่เรียนมา ให้กับผู้ที่มีความสนใจทางด้านดนตรีอีกด้วย
ให้สมกับที่ได้รับทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิคในพระอุปถัมภ์จากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
อัจฉริยะพิเศษที่เป็นทั้งพรสวรรค์และพรแสวงของฐิติพรรณ แววหงษ์ ก็คือที่มหาวิทยาลัย เทิรท มิวสิค ฮกซูเล่อ สกูลอ๊อฟมิวสิคเมืองโคโลญ สาขาอาเค่น ประเทศเยอรมนี แห่งนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจุบัน ยังไม่มีนักศึกษาไทยคนใด สามารถสอบผ่านเข้าไปได้เลยแม้แต่คนเดียว ฐิติพรรณ แววหงษ์ คนไทยหนึ่งเดียวจากประเทศไทย จึงเป็นหนึ่งเดียวที่โดดเด่น ใน สกูล อ๊อฟมิวสิคแห่งนี้ จึงเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและทุกคนในจังหวัดราชบุรี ที่ราชินีวิโอล่าคนนี้สามารถฟันฝ่ามาตรฐานโหดและหินจากมหาวิทยาลัย เทิรท มิวสิค ฮกซูเล่อ แห่งนี้ ต้องจดจารจารึกตลอดไป
ข่าว/ อุดมศักดิ์ ภาพ / ธนชาติ
ฐิติพรรณ แววหงษ์ หรือ แก้ว วิโอล่า สมาชิกวงแบ๊งค๊อกซิมโฟนี่ ออเครสต้า นำลูกศิษย์ตัวน้อยๆเข้าแสดงดนตรีหน้าพระฉายาลักษณ์ เริ่มจากสายฝน บทเพลงพระราชนิพน์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพลงพระราชนิพนธ์ สายฝน หรือ ฟอลลิ่ง เรน เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 3 ทรงพระราชนิพนธ์ ใน พ.ศ. 2489 ขณะทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช
การแสดงในเพลงที่สองคือ มีนูเอต นัมเบอร์ทู ของ เจ เอสบ๊าค และจบลงด้วยเพลงแสงหนึ่ง เพลงที่แต่งขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระพี่นาง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา
การแสดงครั้งนี้ ฐิติพรรณ แววหงษ์ นำเยาวชนนักเรียนอนุบาลราชบุรี อิงลิชโปรแกรม ลูกศิษย์คุณฐิติพรรณ เข้าร่วมแสดงคือ
1. ด.ญ. อารียา นารถติกร ชั้น ป.5
2. ด.ญ. พริมา รุ่งพรชัย ชั้น ป.5
3. ด.ญ. ศิรดา ศรีสวรรค์ ชั้น ป.5
4. ด.ญ. พีรดา เทียนรุ่งโรจน์ ชั้น ป.4
5. ด.ญ. ศวิตา สุนทรศานติก ชั้น ป.4
6. ด.ญ. สุทธิดา แพท่าไม้ ชั้น ป.3
7. ด.ญ. พีรดา รุ่งพรชัย ชั้น ป.2
ฐิติพรรณ แววหงษ์ หรือ แก้ว วิโอล่า ถือกำเนิดที่จังหวัดราชบุรีเป็นหลานสาวสุดรักของพันโทวสันต์ กับคุณยี่โถ จอมทอง เข้าเรียนหนังสือครั้งแรกที่โรงเรียนอนุบาลสายสิริวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนของคุณยี่โถเอง จากนั้นจึงเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนนารีวิทยา ราชบุรี นักดนตรีวิโอล่าคนนี้เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2516 เธอเริ่มเรียนวิโอล่าเมื่ออายุ 13 ปี กับอาจารย์ภารดี ไตรวิทยาคุณ วิทยาลัยนาฏศิลป์ กรมศิลปากร ต่อมาจึงได้ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเรียนวิโอล่ากับอาจารย์สุทิน ศรีณรงค์ จากนั้นเธอจึงได้ยึดมั่นบนถนนแห่งดนตรี โดยได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ วิคทอเรี่ยน คอลเลจ อ๊อฟ อาร์ต ยูนิเวอร์ซิตี้ อ๊อฟ เมลล์เบิร์น ซึ่งเป็นสถาบันดนตรีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงเมลล์เบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ทำให้เธอได้มีโอกาสเรียนวิโอล่ากับปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรเลีย ได้แก่ นายแก๊ปบิ้ลล์ ฮาโรแลน ซึ่งเป็นสมาชิกของวง เมลล์เบิร์น ซิมโฟนี่ ออเครสต้า จอห์นลิ้น ซึ่งเป็นศิษย์ของ คิม แคสแคสเชี่ยน ปรมาจารย์ชาวเยอรมัน และ ยูริ บอสแมท ปรมาจารย์ชาวรัสเซีย
ต่อมาเธอจึงได้ศึกษาต่อปริญาโทด้านการแสดงวิโอล่าที่มหาวิทยาลัยโมนาส ประเทศออสเตรเลีย โดยในระหว่างนั้นเธอได้ฝึกฝนทักษะการแสดงวิโอล่ากับ แคมธรีน บล๊อคแมน ซึ่งเป็น พริ้นซิเปิ้ล ของ ไวโอล่า เซคชั่น ของ เมลล์เบิร์น ซิมโฟนี่ ออเครสต้า ได้เข้าเรียนเชมเบอร์มิวสิคกับ มาร์ค โมคาลัสสกี้ ซึ่งเป็นแอสโซซิเอท คอนเสิร์ต มาสเตอร์ ของ เมลล์เบิร์น ซิมโฟนี่ ออเครสต้า เมื่อเธอจบการศึกษาจากเมลล์เบิร์นแล้ว เธอจึงได้ศึกษาต่อที่สถาบันดนตรีที่มีชื่อเสียงของประเทศเยอรมนีคือมหาวิทยาลัย ดนตรีโคโลญจ์ เมืองอาเค่น โดยได้เรียนกับโปรเฟสเซอร์ มาสสิโน แพรีส ด้วยทุนการศึกษาจากกองทุน เพื่อส่งเสริมการศึกษาดนตรีของเยาวชน หรือทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ในภายหลัง
ฐิติพรรณ ทำหนังสือขอทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ ผ่านวง แบ๊งค๊อก ซิมโฟนี่ ออเครสต้า และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวง ทรงพระราชทานให้ ฐิติพรรณ ได้กล่าวถึงความซาบซึ้งต่อพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ไว้ว่า ดิฉันรู้สึกประทับใจที่ทรงให้โอกาสแก่นักเรียน
ทุกคน ไม่เช่นนั้นดิฉันอาจเรียนไม่จบ เนื่องจากในช่วงนั้นเศรษฐกิจไม่ดี เป็นเวลาที่ดิฉันลำบากมากที่สุดในเวลาที่ไม่มีใครสนับสนุน การเรียนการดนตรีคลาสสิกเป็นเรื่องแปลกๆที่ในบ้านเราไม่มีผู้สนับสนุนไม่มีทุนให้เลย นอกจากเราจะต้องไปหาทุนเองที่เมืองนอก พระองค์ทำให้ดิฉันได้เรียนในสิ่งที่ดิฉันอยากเรียน
พระองค์ได้ทรงพิจารณาในด้านความพยายามในการพัฒนาตนเองของนักเรียนในอนาคต นอกเหนือไปจากความสามารถของนักเรียนด้วยโดยในความเห็นส่วนตัวนั้น ทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าเป็นการมอบโอกาสให้นักเรียนทุกคนได้ศึกษาต่อในด้านที่ตนเองมีความสนใจอย่างแท้จริง สำหรับเหตุการณ์ประทับใจที่สุดนั้น คือการแสดงหน้าพระพักตร์ที่พระราชวังพญาไท ซึ่งในขณะนั้นดิฉันได้รับพระราชทานดอกไม้จากพระหัตถ์พระองค์ท่าน
ในเวลานี้ไม่มีพระองค์ท่านอยู่กับเราแล้ว ก็ยังคิดถึงทุกครั้งยังจดจำสายพระเนตรแห่งความเอื้ออาทร พระพักตร์ของพระองค์ท่านเวลาที่ทอดพระเนตรการแสดงของดิฉัน พระองค์ท่านจะอยู่ในใจดิฉันตลอดไปและจะสานต่อพระปณิธานของพระองค์ท่าน พระองค์เคยมีรับสั่งกับดิฉันไว้ว่าทุนการศึกษาที่ดิฉันได้รับนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นทุนได้เปล่า แต่มีพระประสงค์จะให้ดิฉันนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปทำชื่อเสียงให้ปรากฏต่อนานาประเทศในฐานะนักดนตรีคลาสสิกจากประเทศไทย จะต้องมีหน้าที่เผยแพร่และพัฒนาดนตรีคลาสสิกในประเทศไทยด้วย
ปัจจุบัน ฐิติพรรณ แววหงส์ หรือแก้ว วิโอล่า เป็นสมาชิกวงแบ๊งค๊อก ซิมโฟนี่ ออเครสต้า และเป็นอาจารย์สอนไวโอลีนและวิโอล่าที่โรงเรียน แบ๊งค๊อกซิมโฟนี่ มิวสิคสคูล เป็นอาจารย์พิเศษที่คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒประสานมิตร อาจารย์พิเศษที่คณะนาฏศิลป์และดุริยางค์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และเคยเป็นอาจารย์สอนไวโอลีนและวิโอล่าที่มหาวิยาลัยมหิดล
เป้าหมายในอนาคตของแก้ว วิโอล่า เธอมีเป้าหมายชัดเจนว่า เธอจะเป็นนักดนตรีที่สามารถเล่นดนตรีได้ดี ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม รวมทั้งยังมุ่งมั่นตั้งใจในการเผยแพร่ความรู้ที่เรียนมา ให้กับผู้ที่มีความสนใจทางด้านดนตรีอีกด้วย
ให้สมกับที่ได้รับทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิคในพระอุปถัมภ์จากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
อัจฉริยะพิเศษที่เป็นทั้งพรสวรรค์และพรแสวงของฐิติพรรณ แววหงษ์ ก็คือที่มหาวิทยาลัย เทิรท มิวสิค ฮกซูเล่อ สกูลอ๊อฟมิวสิคเมืองโคโลญ สาขาอาเค่น ประเทศเยอรมนี แห่งนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจุบัน ยังไม่มีนักศึกษาไทยคนใด สามารถสอบผ่านเข้าไปได้เลยแม้แต่คนเดียว ฐิติพรรณ แววหงษ์ คนไทยหนึ่งเดียวจากประเทศไทย จึงเป็นหนึ่งเดียวที่โดดเด่น ใน สกูล อ๊อฟมิวสิคแห่งนี้ จึงเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและทุกคนในจังหวัดราชบุรี ที่ราชินีวิโอล่าคนนี้สามารถฟันฝ่ามาตรฐานโหดและหินจากมหาวิทยาลัย เทิรท มิวสิค ฮกซูเล่อ แห่งนี้ ต้องจดจารจารึกตลอดไป
ข่าว/ อุดมศักดิ์ ภาพ / ธนชาติ
1 ความคิดเห็น:
。◕‿◕。
แสดงความคิดเห็น