แก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียโรงงานฟอกย้อม ที่สร้างปัญหากับชาวบ้านไม่รู้จบ
ส.ส. จังหวัดราชบุรีจับมือจังหวัดและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ให้โรงงานแก้ไขปัญหาเชิงรุก ก่อนยื่นเงื่อนไข 5 ข้อให้โรงงานดำเนินการอย่างจริงจัง
วันที่ 10 พ.ย. 51 ที่ห้องประชุม อาสา 51 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ บริษัท เอส วี เอ็ม เท็กไทล์ จำกัดและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมแก้ปัญหาการร้องเรียนของประชาชน ที่ร้องผ่าน ส.ส. มานิต นพอมรบดี และส.ส. สามารถ พิริยะปัญญาพร ให้เข้าแก้ปัญหาน้ำเสียจากโรงงานที่แพร่กระจายลงสู่คูคลองจนชาวบ้านเดือดร้อนทั่วหน้าเป็นปัญหาเรื้อรังไม่รู้จบตลอดเวลา
บริษัท เอส วี เอ็ม เท็กไทล์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 231 ถนนพิกุลทอง หมู่ 3 ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ประกอบกิจการฟอกย้อมเส้นด้ายและผ้า กำลังผลิตการฟอกย้อม 100 ตันต่อปี กำลังผลิตฟอกย้อมเส้นด้าย 60 ตันต่อปี ใช้ระบบบำบัดน้ำเสียเป็นแบบ AS+ เคมี+บ่อธรรมชาติ ความสามารถบำบัดน้ำเสียที่ออกแบบประมาณ 1500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่ปัจจุบันไม่สามารถดำเนินการได้เต็มกำลัง เพื่อรองรับปริมาณน้ำเสียที่ประมาณ 200-500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ปัญหาที่ไม่สอดคล้องกันจึงกลายเป็นปัญหาการล้นทะลักของน้ำเสียที่ไหลสู่คูคลอง สร้างความเสียหายแก่เกษตรกร และการดำรงชีพของประชาชน ตลอดเวลาที่ชาวบ้านเข้าร้องเรียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบก็จะมีการไปตรวจสอบพูดคุยในระดับหนึ่ง แต่การแก้ไขปัญหาก็ยังไม่มีข้อยุติ ไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง สุดท้ายจึงต้องร้องขอความเป็นธรรม ไปยัง ส.ส. ราชบุรีบางคนเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาในเชิงรุก
จังหวัดราชบุรี กรมโรงงานอุตสาหกรรม และคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรแห่งชาติและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลหลักเมือง และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจึงร่วมประชุมหาแนวทางการแก้ไขอย่างยั่งยืน และเพื่อให้โรงงานอยู่ร่วมกันกับประชาชนในชุมชนได้อย่างปกติสุข ผลการประชุมมีมติให้โรงงานฟอกย้อมดำเนินการต่อไปนี้
1. โรงงานจะต้องไม่ละเมิดปล่อยน้ำเสียออกนอกบริเวณโรงงานหากจะปล่อยต้องแจ้งให้ประชาชนทราบก่อน
2. ให้โรงงานเร่งปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพโดยมีค่าความเค็มไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด
3. ให้โรงงานจัดหาวิศวกรผู้มีความรู้ทางด้านน้ำเสียเพื่อการแก้ไขปัญหาของโรงงานในระยะยาว
4. จัดแผนปฏิบัติการ แก้ปัญหาโรงงานในระยะยาว
5. จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ติดตาม ประเมินการแก้ไขของโรงงานทั้งนี้เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ที่ต้องนำน้ำในคลองมาใช้ในการเกษตรเพื่อประกอบอาชีพของเกษตรกร และการอุปโภคบริโภคของประชาชน
ภาพ/ข่าว สิริรัตน์ วันดี
10 พ.ย. 51
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น