พระโพธิสัมพันธ์ ญาญนสัมปันโน พระลูกวัด วัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ ตําบลอ่างทอง อําเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ศิษย์หลวงปู่ดิน วัดป่าพระมุณีธรรม อุทยานไทรโยกใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัศโตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งจังหวัดสกลนคร พบนักข่าวไปดูรอยพระพุทธบาทที่ปรากฏเป็นรอยเท้าอยู่บนก้อนหินหลายแห่ง บริเวณรอบวัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ โดยพระโพธิสัมพันธ์ บอกว่า บวชมาหลายพรรษา และได้ปฏิบัติธรรมนั่งวิปัสนากรรมฐานตามที่พระอาจารย์ หลวงปู่ดินสอน จนเห็นภาพในอดีตว่า มีรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่บนก้อนหินหลายครั้งจึงได้เดินค้นหาหินดังกล่าวที่ปรากฏให้เห็นเป็นภาพ พบว่ามีหลายก้อนที่ดูแล้วปรากฏเห็นเป็นรอยเท้าพระพุทธบาท บางก้อนเห็นปรากฏเป็นรอยเท้าอย่างชัดเจน ตามภาพที่เห็น
วัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ เป็นวัดเก่าแก่อายุราว 1,800 ปี ตั้งอยู่บนเขาในหมู่ที่ 4 ตําบลอ่างทอง อําเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ทัศนียภาพโดยรอบ สามารถมองเห็นตัวเมืองราชบุรี เนื่องจากมีความสูงกว่าระดับนํ้าทะเลประมาณ 200-300 เมตร พระอุโบสถหลังเก่าสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป 2 องค์ ประทับนั่งหันหลังให้กัน ทำด้วยศิลาแลงชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อเขาน้อย และยังมีศาลหลวงพ่อดํา ที่มีความสักดิ์สิทธิ์ใครที่บนบานศาลกล่าวก็ได้ดังสมความปรารถนา ซึ่งเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากเลยทีเดียว
พระโพธิสัมพันธ์ เล่าว่า วัดเขาน้อยเทียมสวรรค์เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หากพระที่มาจําพรรษาไม่ถือปฏิบัติจริงจังก็จะมีอันเป็นไป อย่างที่อดีตเจ้าอาวาสและพระลูกวัดหลายรูปอยู่ไม่ได้ และไม่เคยมีใครอยู่แบบถาวร ถูกผู้หญิงชัดจูงไปบาง มีอันเป็นไปต่าง ๆ นานา เพราะไม่ถือปฏิบัติตามวินัย จึงทําให้อยู่ไม่ได้องค์แล้วองค์เหล่า และก็เป็นเรื่องจริงเสียด้วย พระที่ปฏิบัติธรรมจริง ๆ เท่านั้นที่สามารถเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะรอยพระพุทธบาทที่นั่งวิปัสนากรรมฐานจนเห็นภาพและปรากฏรอยให้เห็น เรื่องเหล่านี้ไม่เชื่อแต่ก็อย่าไปลบลู่ ผู้ที่ถือปฏิบัติเท่านั้นที่เห็นจริง
ดังนั้นหากปฏิบัติได้ ก็สามารถเข้าถือสิ่งปฏิหารต่าง ๆ ที่ปรากฏให้เห็นถึงอดีต ดั่งที่พระเกจิอาจารย์พล้ำสอนไว้ว่าทุกคนต้องทําดีจะได้ดี วัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ มีผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนเล่าต่อ ๆ กันมาว่า เมื่อสมัยเด็ก ๆ เคยวิ่งเล่นบริเวณวัด ก็เห็นมีคนมาสร้างรอยพระพุทธบาทจําลองไว้ยอดบนเขาแล้ว จึงเป็นไปได้ว่าพระองค์ก่อน ๆ ได้ถือปฏิบัติจนเห็นรอยเท้าพระพุทธบาทมาแล้ว จึงได้สร้างรอยพระพุทธบาทจําลองไว้ ต่อมามีพระรูปหนึ่งที่มาอยู่จําพรรษาได้สร้างองค์เจดีย์คล้ายรูประฆังไว้ ก่อนจะสึกออกไป จนพระโพธิสัมพันธ์มาจําพรรษา และถือปฏิบัตินั่งวิปัสนากรรมฐานจนเห็นภาพปรากฏรอยพระพุทธบาทดั่งที่พระโพธิสัมพันธ์บอกเล่ามานี้ เชื่อไม่เชื่อก็อยู่ที่ส่วนบุคคลผู้ปฏิบัติเท่านั้น
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
27/10/53
วัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ เป็นวัดเก่าแก่อายุราว 1,800 ปี ตั้งอยู่บนเขาในหมู่ที่ 4 ตําบลอ่างทอง อําเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ทัศนียภาพโดยรอบ สามารถมองเห็นตัวเมืองราชบุรี เนื่องจากมีความสูงกว่าระดับนํ้าทะเลประมาณ 200-300 เมตร พระอุโบสถหลังเก่าสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป 2 องค์ ประทับนั่งหันหลังให้กัน ทำด้วยศิลาแลงชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อเขาน้อย และยังมีศาลหลวงพ่อดํา ที่มีความสักดิ์สิทธิ์ใครที่บนบานศาลกล่าวก็ได้ดังสมความปรารถนา ซึ่งเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากเลยทีเดียว
พระโพธิสัมพันธ์ เล่าว่า วัดเขาน้อยเทียมสวรรค์เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หากพระที่มาจําพรรษาไม่ถือปฏิบัติจริงจังก็จะมีอันเป็นไป อย่างที่อดีตเจ้าอาวาสและพระลูกวัดหลายรูปอยู่ไม่ได้ และไม่เคยมีใครอยู่แบบถาวร ถูกผู้หญิงชัดจูงไปบาง มีอันเป็นไปต่าง ๆ นานา เพราะไม่ถือปฏิบัติตามวินัย จึงทําให้อยู่ไม่ได้องค์แล้วองค์เหล่า และก็เป็นเรื่องจริงเสียด้วย พระที่ปฏิบัติธรรมจริง ๆ เท่านั้นที่สามารถเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะรอยพระพุทธบาทที่นั่งวิปัสนากรรมฐานจนเห็นภาพและปรากฏรอยให้เห็น เรื่องเหล่านี้ไม่เชื่อแต่ก็อย่าไปลบลู่ ผู้ที่ถือปฏิบัติเท่านั้นที่เห็นจริง
ดังนั้นหากปฏิบัติได้ ก็สามารถเข้าถือสิ่งปฏิหารต่าง ๆ ที่ปรากฏให้เห็นถึงอดีต ดั่งที่พระเกจิอาจารย์พล้ำสอนไว้ว่าทุกคนต้องทําดีจะได้ดี วัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ มีผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนเล่าต่อ ๆ กันมาว่า เมื่อสมัยเด็ก ๆ เคยวิ่งเล่นบริเวณวัด ก็เห็นมีคนมาสร้างรอยพระพุทธบาทจําลองไว้ยอดบนเขาแล้ว จึงเป็นไปได้ว่าพระองค์ก่อน ๆ ได้ถือปฏิบัติจนเห็นรอยเท้าพระพุทธบาทมาแล้ว จึงได้สร้างรอยพระพุทธบาทจําลองไว้ ต่อมามีพระรูปหนึ่งที่มาอยู่จําพรรษาได้สร้างองค์เจดีย์คล้ายรูประฆังไว้ ก่อนจะสึกออกไป จนพระโพธิสัมพันธ์มาจําพรรษา และถือปฏิบัตินั่งวิปัสนากรรมฐานจนเห็นภาพปรากฏรอยพระพุทธบาทดั่งที่พระโพธิสัมพันธ์บอกเล่ามานี้ เชื่อไม่เชื่อก็อยู่ที่ส่วนบุคคลผู้ปฏิบัติเท่านั้น
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
27/10/53
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น