18 ล้อพ่วง หางหลุดฟาดเสาไฟล้ม 28 ต้นไฟดับทั้งเมืองค่าเสียหายมากกว่า 10 ล้าน
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 22 ม.ค. 53 ร.ต.ท.สันติ หนูช่วย ร้อยเวรสภ.บางแพ อ.บางแพ จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนเสาไฟฟ้าล้มหลายสิบต้น และไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างที่บริเวณถนนสาย บางแพ-ดำเนินสะดวก ปากทางเข้าวัดดอนเซ่ง หมู่ 10 ต.บางแพ อ.บางแพ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยมูลนิธิสว่างราชบุรี พบว่าที่บริเวณดังกล่าวนั้นมืดสนิท เจ้าหน้าที่ต้องหาแสงสว่างมาช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบ พบว่าที่บริเวณทางเข้าวัดดอนเซ่งมีหางรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-1731 ปัตตานี บรรทุกอาหารไก่มาเต็มคัน ชนฟาดกับเสาไฟฟ้าแสงสูงล้มหักทั้งต้น
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 22 ม.ค. 53 ร.ต.ท.สันติ หนูช่วย ร้อยเวรสภ.บางแพ อ.บางแพ จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนเสาไฟฟ้าล้มหลายสิบต้น และไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างที่บริเวณถนนสาย บางแพ-ดำเนินสะดวก ปากทางเข้าวัดดอนเซ่ง หมู่ 10 ต.บางแพ อ.บางแพ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยมูลนิธิสว่างราชบุรี พบว่าที่บริเวณดังกล่าวนั้นมืดสนิท เจ้าหน้าที่ต้องหาแสงสว่างมาช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบ พบว่าที่บริเวณทางเข้าวัดดอนเซ่งมีหางรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-1731 ปัตตานี บรรทุกอาหารไก่มาเต็มคัน ชนฟาดกับเสาไฟฟ้าแสงสูงล้มหักทั้งต้น
นอกจากนี้แรงกระแทกยังทำให้เสาไฟฟ้าต้นอื่นๆได้รับความเสียหายและโค่นล้มลงไปด้วยอีกจำนวน 28 ต้น ทำให้กระแสไฟฟ้าดับกว่า 3 ตำบลในพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ยังพบรถบรรทุกสิบล้อตัวแม่ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 71-1865 สงขลา จอดอยู่ด้านหน้าตัวพ่วง ส่วนคนขับรถนั้นทราบว่าหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง จากการสอบสวนในเบื้องต้นนั้นทราบว่า รถพ่วง 18 ล้อคันดังกล่าวได้บรรทุกอาหารไก่มาเต็มทั้งตัวแม่และตัวพ่วง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งและเป็นปากซอยที่จะเข้าวัดดอนเซ่ง รถบรรทุกคันดังงกล่าวจะเลี้ยวเข้าซอยแต่ตัวลูกนั้นล้อเลี้ยวไม่ทันทำให้ล้อตกไหล่ทางและตัวพ่วงไปฟาดกับเสาไฟฟ้าที่อยู่ข้างทางพอดี ทำให้เสาไฟหักโค่นและทำให้ดึงเสาไฟต้นอื่นๆให้หักและล้มตามไปด้วย
เจ้าหน้าที่ต้องรีบปิดเส้นทางการจราจรหนึ่งเส้นทางเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับรถที่วิ่งสันจรไปมา พร้อมทั้งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าจากอำเภอบางแพ อำเภอดำเนินสะดวก และอำเภอโพธาราม มาช่วยกันเร่งดำเนินการซ่อมแซมและเดินสายใหม่เพื่อให้ประชาชน โรงงานต่าง รวมทั้งหน่วยงานในพื้นที่ทั้งหมดได้มีกระแสไฟฟ้าใช้ และเร่งดำเนินการเพื่อเปิดเส้นทางการจราจรให้กับประชาชนที่จะใช้เส้นทางดังกล่าว ซึ่งในเบื้องต้นนั้นค่าเสียหายของเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม
22/01/53
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น