ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 7 ราชบุรี
ช่วงเช้าวันที่ 14 ตุลาคม นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้กล่าวต้อนรับ นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานเปิดสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 7 ราชบุรี ณ สำนักงานงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 7 ราชบุรี
สำหรับการเปิดสำนักงานงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 7 ราชบุรี ได้เกิดขึ้นเมื่อครั้ง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ได้เลือกจังหวัดราชบุรีเป็นที่ตั้งของสำนักงาน เพื่อเป็นศูนย์กลางดูแลการประกอบกิจการเหมืองแร่ในภาคตะวันตก และภาคกลางรวม 8 จังหวัด ซึ่งทำให้การประสานการปฏิบัติราชการ และการให้บริการแก่ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ เกิดความสะดวก คล่องตัวและรวดเร็วขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ของปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งหวังการกระจายอำนาจทางการบริหารและทางวิชาการ จากส่วนกลางลงสู่พื้นที่ เพื่อให้เกิดการลดขั้นตอนในการปฏิบัติงานโดยอัตโนมัติ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการปฏิบัติราชการ ในส่วนของจังหวัดราชบุรีนอกจากจะมีการประกอบกิจการเหมืองแร่และโรงโม่หินที่อำเภอเมือง อ.ปากท่อ อ.โพธาราม อ.บ้านคา อ.จอมบึง และ อ.สวนผึ้งแล้ว ยังมีการประกอบกิจการจากการใช้แร่และหิน เป็นวัตถุดิบตั้งต้น กระจายอยู่ทั่วจังหวัด โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมก่อสร้างและเซรามิค ซึ่งเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ แก่ประชาชน โดยสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 7 ราชบุรี ได้เริ่มดำเนินการปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2552 พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กล่าวการประกอบกิจการเหมืองแร่และโรงโม่หิน จะสร้างความเจริญให้กับท้องถิ่นและสังคมโดยรวม ย่อมต้องนำแร่มาจากธรรมชาติที่เป็นภูเขาและที่ดิน ซึ่งถูกปกคลุมไว้ด้วยป่าไม้ แหล่งน้ำ และทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงเช่นกัน ทั้งนี้ทางจังหวัดราชบุรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ประสานการปฏิบัติงานร่วมกันดำเนินการป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่ายต่อไปเป็นอย่างดี
สำหรับการเปิดสำนักงานงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 7 ราชบุรี ได้เกิดขึ้นเมื่อครั้ง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ได้เลือกจังหวัดราชบุรีเป็นที่ตั้งของสำนักงาน เพื่อเป็นศูนย์กลางดูแลการประกอบกิจการเหมืองแร่ในภาคตะวันตก และภาคกลางรวม 8 จังหวัด ซึ่งทำให้การประสานการปฏิบัติราชการ และการให้บริการแก่ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ เกิดความสะดวก คล่องตัวและรวดเร็วขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ของปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งหวังการกระจายอำนาจทางการบริหารและทางวิชาการ จากส่วนกลางลงสู่พื้นที่ เพื่อให้เกิดการลดขั้นตอนในการปฏิบัติงานโดยอัตโนมัติ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการปฏิบัติราชการ ในส่วนของจังหวัดราชบุรีนอกจากจะมีการประกอบกิจการเหมืองแร่และโรงโม่หินที่อำเภอเมือง อ.ปากท่อ อ.โพธาราม อ.บ้านคา อ.จอมบึง และ อ.สวนผึ้งแล้ว ยังมีการประกอบกิจการจากการใช้แร่และหิน เป็นวัตถุดิบตั้งต้น กระจายอยู่ทั่วจังหวัด โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมก่อสร้างและเซรามิค ซึ่งเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ แก่ประชาชน โดยสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต 7 ราชบุรี ได้เริ่มดำเนินการปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2552 พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กล่าวการประกอบกิจการเหมืองแร่และโรงโม่หิน จะสร้างความเจริญให้กับท้องถิ่นและสังคมโดยรวม ย่อมต้องนำแร่มาจากธรรมชาติที่เป็นภูเขาและที่ดิน ซึ่งถูกปกคลุมไว้ด้วยป่าไม้ แหล่งน้ำ และทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงเช่นกัน ทั้งนี้ทางจังหวัดราชบุรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ประสานการปฏิบัติงานร่วมกันดำเนินการป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่ายต่อไปเป็นอย่างดี
ถาพ/ข่าว ธนชาติ 14-10-52
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น