สุนัขพันธุ์ผสมบางแก้วเดือด แว้งกัดเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ เลือดท่วมตัว ขณะกำลังนั่งเล่นกองทรายกับเพื่อนเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ก.ย. 52 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากมูลนิธิรวมใจราชบุรีว่า ที่บริเวณสนามช้างห้องแถว หมู่ 13 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง ร.ราชบุรี มีเด็กหญิงอนุบาลถูกสุนัขลูกผสมบางแก้วกัดบริเวณใบหน้าและศีรษะ จำนวนหลายแผล ได้รับบาดเจ็บ และถูกนำส่ง รพ.บ้านโป่ง เพื่อช่วยรักษาเป็นการด่วน จากการตรวจสอบทราบว่า เด็กหญิงที่เคราะห์ร้ายคือ ด.ญ.อภิญญา บุญสม อายุ 4 ปี เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ของโรงเรียนวัดจันทาราม ซึ่งเป็นบุตรของ นายสุรพงษ์ บุญสม และนางประเทือง บุญสม บ้านเลขที่ 14 ม.13 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง ซึ่งเป็นเจ้าของห้องแถวให้เช่า ส่วน ด.ญ.อภิญญาฯ ได้ถูกสุนัขลูกผสมบางแก้วกัดที่เหนือตาขวา ใบหู ใต้คาง และศีรษะ รวม 5 แผล เจ้าหน้าที่พยาบาลให้การพยาบาลรักษา พร้อมกับฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และป้องกันโรคบาดทะยัก สำหรับสุนัขที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นของนางประไพพิศ แซ่ซือ อายุ 28 ปี เป็นสุนัขสายพันธุ์ลูกผสมบางแก้ว อายุ 10 เดือน ได้ตั้งชื่อให้ว่า “เจ้ากล้วย” นางประไพพิศฯ กล่าวว่าปกติแล้วเจ้ากล้วยเป็นสุนัขที่เชื่อง ไม่ดุร้าย ไม่เคยกัดใครเลย เด็กๆ ที่มาเล่นด้วย เมื่อถือไม้จะมาตีมัน เจ้ากล้วยก็เพียงแต่เห่ากรรโชคเท่านั้น ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเห็น ด.ญ.อภิญญาฯ นั่งเล่นก่อกองทรายกับเพื่อนๆ อีก 2 คน ที่บริเวณสนามข้างห้องแถว และก็เห็นเจ้ากล้วยนอนอยู่บริเวณนั้นด้วย คาดว่า ด.ญ.อภิญญาฯ อาจจะไปนั่งทับหาง จึงทำให้เจ้ากล้วยโกรธ แล้วหันมากัดแว้งกัดจนได้รับบาดเจ็บ
ทางด้าน นายสุรพงษ์ฯ หลังจากที่ได้นำลูกสาวส่ง รพ. แล้ว ได้กล่าวว่า ขณะนั้นตนเองก็ทำงานอยู่ใกล้ๆ แถวนั้น ได้ยินเสียงลูกสาวร้องไห้เสียงดังมาก ตนตกใจจึงรีบวิ่งไปดู เห็นเจ้ากล้วยกำลังทำร้ายลูกสาวของตน จึงใช้ไม้ไล่ตีจนเจ้ากล้วยวิ่งหนีไป และเห็นลูกสาวอยู่ในสภาพเลือดอาบใบหน้า และเบ้าตาด้านขวา รู้สึกตกใจมาก เพราะนึกว่าลูกสาวจะถูกเจ้ากล้วยกัดที่ดวงตา จึงรีบนำส่ง รพ. นายสุรพงษ์ฯ กล่าวต่อว่า ตนเองคงไม่เอาความผิด และเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของสุนัข เพราะเห็นว่าเป็นคนอยู่ในฐานะไม่ค่อยดี แต่จะไม่ขอมให้เลี้ยงเจ้ากล้วยในบริเวณห้องแถวอีกเด็ดขาด ซึ่งต่อมา นางประไพพิศฯ ก็ยอมที่จะนำเจ้ากล้วยไปฝากพี่สาวเลี้ยง เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อเจ้ากล้วย สุนัขของตนเอง
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์
ทางด้าน นายสุรพงษ์ฯ หลังจากที่ได้นำลูกสาวส่ง รพ. แล้ว ได้กล่าวว่า ขณะนั้นตนเองก็ทำงานอยู่ใกล้ๆ แถวนั้น ได้ยินเสียงลูกสาวร้องไห้เสียงดังมาก ตนตกใจจึงรีบวิ่งไปดู เห็นเจ้ากล้วยกำลังทำร้ายลูกสาวของตน จึงใช้ไม้ไล่ตีจนเจ้ากล้วยวิ่งหนีไป และเห็นลูกสาวอยู่ในสภาพเลือดอาบใบหน้า และเบ้าตาด้านขวา รู้สึกตกใจมาก เพราะนึกว่าลูกสาวจะถูกเจ้ากล้วยกัดที่ดวงตา จึงรีบนำส่ง รพ. นายสุรพงษ์ฯ กล่าวต่อว่า ตนเองคงไม่เอาความผิด และเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของสุนัข เพราะเห็นว่าเป็นคนอยู่ในฐานะไม่ค่อยดี แต่จะไม่ขอมให้เลี้ยงเจ้ากล้วยในบริเวณห้องแถวอีกเด็ดขาด ซึ่งต่อมา นางประไพพิศฯ ก็ยอมที่จะนำเจ้ากล้วยไปฝากพี่สาวเลี้ยง เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อเจ้ากล้วย สุนัขของตนเอง
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น