พบแล้วศพหนุ่มใหญ่ตายเพราะรถเข็นลอยข้ามอำเภอจากรณีที่นายขุนแผน ขำเจริญ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 80 ม.11 ต.เขาชงุ้ม อ.โพธาราม ออกไปตัดผื้นกับนางสุ สินชัย อายุ 40 ปี ภรรยา ขณะขับขี่รถ จยย.ลากรถสาลี่ที่บรรทุกฟื้นมาเต็มคันและรถเกิดเสียหลักล้มลงทำให้รถสาลี่พร้อมกับไม้ฟื้นตกลงไปในคลองชลประทาน บ้านเขาราบ ม.9 ต.เตาปูน อ.โพธาราม และนายขุนแผนเกิดเสียดายรถสาลี่และไม้ฟื้นที่ไปตัดมาจึงไปยืมเชือกเพื่อนบ้านและลงไปผูกเพื่อที่จะดึงเอารถสาลี่ขึ้นมาแต่น้ำในคลองไหลแรงมากทำให้กระแสน้ำดึงกระชากนายขุนแผนและรถสาลี่จมหายไปกับกระแสน้ำ หลังเกิดเหตุได้แจ้งเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำมาทำการงมค้นหาแต่ไม่พบเหตุเกิด เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2552
ต่อมาเมื่อเวลา 06.50 น.วันที่ 11 สิงหาคม 2552 ร.ต.ท.นิพนธ์ ก่อเกียรติตระกูล ร้อยเวร สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งมีผู้พบศพเป็นชายลอยน้ำมาที่คลองชลประทานหมู่ 1 ต.ห้วยไผ่ อ.เมืองราชบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรและมูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ที่เกิดเหตุพบศพเป็นชายไหลมาตามกระแสน้ำเจ้าหน้าที่จึงไปดักที่ประตูน้ำเพื่อดึงร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาตรวจสอบ พบมีบาดแผลที่หลังศรีษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ ต่อมามีญาติผู้ตายมาดูศพทราบว่าผู้ตายคือนายขุนแผน ขำเจริญ อายุ 43 ปี ที่จมหายไปในเขต อ.โพธาราม นางสุ สินชัย อายุ 40 ปี ภรรยาผู้ตายให้การน้ำตานองหน้าว่าหลังจากที่สามีจมน้ำไปตนได้ให้มูลนิธิในเขตอำเภอโพธารามช่วยกันงมค้นหาอยู่ 2 วันแต่ไม่พบจนกระทั้งศพลอยข้ามเขตซึ่งมีระยะทางยาวประมาณ 30 กิโลจากจุดเกิดเหตุมาถึงจุดพบศพจึงเชื่อว่าน้ำไหลแรงมากทำให้ศพหลุดจากประตูน้ำไหลจุดจนกระทั้งมีคนมาเจอลอยอยู่ในเขต อ.เมืองราชบุรีส่วนบาดแผลที่ศรีษะนั้นญาติกล่าวว่าน่าจะโดนขอบปูนประตูน้ำหรือไม่ก็โดนไม้ฟื้นกระแทกซึ่งทางญาติไม่ติดใจการตายขอรับศพไปทำพิธีทางศาสนา แต่ทางแพทย์ไม่อนุญาติให้นำศพกลับไปได้ขอรับศพไปทำการผ่าหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด
ภาพ/ข่าว ประทีป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น