รถบรรทุกสารเคมีขับฝ่าไฟแดงพุ่งชนรถบรรทุกปูนพังยับทั้งคู่ กวาดรถจักรยานยนต์ทับแหลก 3 ศพ ตายสยองคาใต้ท้องรถ
ร.ต.อ.สิทธา สามงามน้อย ร้อยเวร สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุรถชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่บริเวณสี่แยกปากท่อ หมู่ 4 ต.ดอนทราย จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมมูลนิธิประชานุกูลราชบุรี ในที่เกิดเหตุพบรถผสมปูนซีเมนต์ สีฟ้าขาว หมายเลขทะเบียน 82-2072 ราชบุรี ซึ่งเป็นของบริษัท วงษ์พิทักษ์คอนกรีต มิกเซอร์ จำกัด พลิกคว่ำอยู่กลางถนน สภาพรถพังยับห่างออกไปพบรถบรรทุกสารเคมี(กำมะถันเหลว) สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 82-4086 ราชบุรี ซึ่งเป็นของบริษัท ศักดิ์ศรีอุตสาหกรรม จำกัด สภาพพังยับเยินทั้งคัน พลิกคว่ำอยู่ริมถนน สารเคมีภายในรถไหลออกมานองพื้นถนน นอกจากนี้ใต้ซากรถบรรทุกสารเคมียังพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน กวก-106 เพชรบุรี สภาพแหลกเหลวอยู่ใต้ซากรถด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯและเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงได้เร่งรีบทำการฉีดล้างสารเคมีที่ไหลทะลักออกมาเพราะเกรงว่าไทยมุงที่มาดูเหตุการณ์อย่างมากมายนั้นจะสูดดมเข้าไปจนเกิดอันตราย และทำการยกรถสารเคมีขึ้นเพื่อไม่ให้สารเคมีที่ยังอยู่ในถังไหลออกมาอีก พบว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ใต้ซากรถบรรทุกสารเคมีถึง 3 คน ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ นายสุชาติ บุญมา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 6 ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี นางสาวอุมาพร เชื้อสมุทร อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 6 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และเด็กหญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 4 ปี สภาพศพทั้งหมดนั้นแหลกเละจนไม่สามารถจะแยกชิ้นได้
จากการสอบสวนนายสมชาย โพธิ์คำ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 หมู่4 ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นคนขับรถผสมปูนให้การว่า ตนขับรถผสมปูนจะไปส่งที่ ต.วันดาว อ.ปากท่อ และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกไฟแดง เป็นช่วงไฟเขียวพอดี จึงได้เร่งเครื่องเพื่อที่จะข้ามแยกไปโดยมีรถ จยย. ของผู้ตายซึ่งมีพ่อแม่ลูกขับขนาบข้างขวามาด้วย และเป็นช่วงเดียวกับที่รถบรรทุกสารเคมีก็เร่งเครื่องฝ่าไฟแดงมาด้วยความเร็ว ทำให้ชนรถของตนเข้าอย่างจังจนรถพลิกคว่ำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย นอกจากนี้รถบรรทุกสารเคมีดังกล่าวได้พลิกคว่ำและกวาดเอารถจยย.ที่ล้มข้างรถของตนไปหยุดที่ริมถนน รถปิกอัพที่จอดติดไฟแดงได้รับความเสียหายอีก 2 คันด้วย ส่วนคนขับรถบรรทุกสารเคมีนั้นทราบชื่อ นายสุรินทร์ เมืองหงส์ อายุ 51 ปีอยู่บ้านเลขที่ 134/1 หมู่ 7 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับบาดเจ็บและกำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลปากท่อ พร้อมกับนายวีรพล พานทอง อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถปิกอัพที่จอดรอไฟแดงในช่วงเกิดเหตุด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดตัวนายสุรินทร์ คนขับรถบรรทุกสารเคมีไว้เพื่อทำการสอบสวนและดำเนินคดี ในข้อหาขับรถประมาทจนเป็นเหตุให้ เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
จากการสอบสวนนายสมชาย โพธิ์คำ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 หมู่4 ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นคนขับรถผสมปูนให้การว่า ตนขับรถผสมปูนจะไปส่งที่ ต.วันดาว อ.ปากท่อ และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกไฟแดง เป็นช่วงไฟเขียวพอดี จึงได้เร่งเครื่องเพื่อที่จะข้ามแยกไปโดยมีรถ จยย. ของผู้ตายซึ่งมีพ่อแม่ลูกขับขนาบข้างขวามาด้วย และเป็นช่วงเดียวกับที่รถบรรทุกสารเคมีก็เร่งเครื่องฝ่าไฟแดงมาด้วยความเร็ว ทำให้ชนรถของตนเข้าอย่างจังจนรถพลิกคว่ำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย นอกจากนี้รถบรรทุกสารเคมีดังกล่าวได้พลิกคว่ำและกวาดเอารถจยย.ที่ล้มข้างรถของตนไปหยุดที่ริมถนน รถปิกอัพที่จอดติดไฟแดงได้รับความเสียหายอีก 2 คันด้วย ส่วนคนขับรถบรรทุกสารเคมีนั้นทราบชื่อ นายสุรินทร์ เมืองหงส์ อายุ 51 ปีอยู่บ้านเลขที่ 134/1 หมู่ 7 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับบาดเจ็บและกำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลปากท่อ พร้อมกับนายวีรพล พานทอง อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถปิกอัพที่จอดรอไฟแดงในช่วงเกิดเหตุด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดตัวนายสุรินทร์ คนขับรถบรรทุกสารเคมีไว้เพื่อทำการสอบสวนและดำเนินคดี ในข้อหาขับรถประมาทจนเป็นเหตุให้ เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ภาพ/ข่าว ประทีป 25 พ.ย. 51
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น