วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552

อุตสาหกรรมนำหมายปิดโรงงานที่ปล่อยน้ำเสียซ้ำซากแต่เจ้าของโรงงานไม่เกรงกลังกฏหมายยังเปิดเครื่องทำงานตามปกติ


จากกรณีที่ นายประสิทธิ์ สิงหรัตน์ เจ้าหน้าที่ตรวจโรงงานชำนาญการ อุตสาหกรรมจ.ราชบุรี ได้นำคำสั่งจากนายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี มาปิดที่บริเวณหน้าบริษัท เอส วี เอ็ม เท็กซ์ไทล์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานฟอกย้อม เพื่อให้ทางโรงงานได้ทำการหยุดประกอบกิจการ และห้ามมิให้มีการทำงานภายในโรงงาน หากฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 40 แห่งพรบ.โรงงาน พ.ศ.2535 เนื่องจากโรงงานดังกล่าวนั้นได้ปล่อยน้ำเสียลงคลองรางกระดี่ซึ่งเป็นคลองสาธารณะ จนทำให้ปลาตาย และชาวบ้านที่นำน้ำในคลองสาธารณะไปใช้ก็ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายโดยเรื่องดังกล่าวนั้นเกิดมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด และการที่เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมนำหมายไปปิดโรงงานเพื่อให้ทางโรงงานดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียให้ได้มาตรฐานก่อนที่จะปล่อยน้ำออกสู่คลองธรรมชาติก็ให้เวลาเพียงแค่ 30 วันหลังจากปิดหมายคำสั่งแล้ว ต่อมาได้มีกลุ่มชาวบ้านต่างเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองราชบุรีให้ดำเนินคดีกับเจ้าของโรงงานเนื่องจากางราชการได้นำคำสั่งไปติดแต่ทางเจ้าของโรงงานยังคงเปิดเครื่องทำงานและป้ายคำสั่งก็ถูกดึงออกอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จากนั้นทางชาวบ้านได้ไปรวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าโรงงานพร้อมแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นทางอุตสาหกรรมจังหวัดเจ้าหน้าที่จากเทศบาลหลักเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะขอเข้าไปตรวจสอบแต่เมื่อไปถึงนั้นเครื่องที่เปิดทำงานอยู่ได้ปิดเครื่องลงไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง พร้อมกับประตูทางเข้าโรงงานมียามเผ้าอยู่จำนวน 2 คนและมีคำสั่งจากเจ้าของโรงงานว่าห้ามไม่ให้ใครเข้าโดยเด็ดขาดให้เข้าได้เฉพาะเจ้าหน้าที่ของอุตสาหกรรมเท่านั้นทำให้กลุ่มชาวบ้านไม่พอใจ อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ทุกอย่างก็สงบลงเมื่อทาง เจ้าหน้าที่ของเทศบาลหลักเมืองได้มาชี้แจงกับชาวบ้านว่าถ้าเราจะเอาผิดกับโรงงานก็ขอให้กลุ่มชาวบ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับหน่วยงานของทางราชการคือโดยให้ชาวบ้านที่มีกล้องถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อเอามายื่นยันว่าทางโรงงานยังคงเปิดเครื่องใช้อยู่ ทำให้กลุ่มชาวบ้านต่างพอใจจึงเดินทางกลับ
ภาพข่าว ประทีป

ไม่มีความคิดเห็น: