เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีคำตอบจะหยุดความแตกแยกได้อย่างไร หมอดูก็ตอบไม่ได้ว่าม็อบจะสลายตัวเพื่อคืนความสงบสุขให้กับประเทศได้ด้วยวิธีไหนเตือนรัฐบาลปลด พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ประชาชนจะต่อต้านรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น
ที่วัดสัตตนารถปริวัตร อ. เมืองราชบุรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ
พรรคประชาธิปัตย์พร้อมคณะ เดินทางมาเป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลและสวดพระอภิธรรมศพ พลตำรวจตรีประดับ เกิดอินทร์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และอดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด
โดยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ทำการชุมนุมยืดเยื้อมากว่า 6 เดือนนั้น ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะยุติลงเมื่อใด เรื่องนี้แม้แต่หมอดูระดับชาติก็ให้คำตอบไม่ได้ แต่มีความหวังว่าถ้าสามารถจะเจรจาในเงื่อนไขที่เป็นไปได้กับรัฐบาล ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
ส่วนปัญหาของประเทศชาติในขณะนี้ ถ้าจะยึดหลักการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง สิ่งสำคัญก็คือต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน เพื่อยุติปัญหาทั้งปวงเปิดทางให้ประชาชนกลับบ้านเลิกการชุมนุม รัฐบาลต้องเสียสละด้วยการลาออกแล้วจัดตั้งรัฐบาลเสียใหม่ เป็นรัฐบาลในรูปแบบพิเศษที่ไม่ใช่รัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลรูปแบบพิเศษคือ ไม่ใช่เอาตัวแทนพรรคไปเป็นรัฐมนตรี แต่ให้ทุกภาคส่วนที่มีประสบการณ์มีความรู้ความสามารถเข้าเป็นรัฐมนตรีร่วมคณะ อาจคัดกรองมาจากฝ่ายราชการ นักธุรกิจ ตำรวจ ทหาร หรือแม้แต่กลุ่มซีกฝ่ายพันธมิตรฯ ก็ควรมีส่วนเข้าร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลในรูปแบบพิเศษ เป็นการเมืองที่แต่ละพรรคการเมืองคัดสรรให้เข้ามาดำรงตำแหน่ง ไม่ใช่มาจากระบบโควตาพรรคการเมืองแบบดั้งเดิม การตกลงกันในรูปแบบพิเศษแล้วดำเนินการฟื้นความเชื่อมั่นของประเทศ บอกกับคนทั้งโลกว่าปัญหาภายในประเทศเราแก้ไขกันได้ เพื่อคืนความสงบสุขและสันติให้เกิดขึ้น เชิญชวนทุกประเทศให้เชื่อมั่นและเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจของประชาชน จะต้องได้รับการบูรณาการฟื้นฟูแก้ไขอย่างเร่งด่วน ที่ผ่านมาสองนายกรัฐมนตรี สองรัฐบาลไม่ได้ทำงานทำการอะไรตามที่แถลงนโยบายไว้เลย เพราะมุ่งแต่ปัญหาการเมืองเพียงฝ่ายเดียว ราคาพืชผลการเกษตร ขาดการใสใจเหลียวแล จนทุกภาคส่วนการผลิตเสียหายยับเยิน
ส่วนการแก้ไขความแตกแยกภายในประเทศ ต้องแยกแยะหามูลเหตุของปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหา อย่าสนใจแต่เรื่องจะแก้รัฐธรรมนูญตามที่ต้องการโดยไม่ฟังเสียงประชาชน และคำนึงถึงความเสียหายที่จะตามมา การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ทำกันได้ไม่ใช่ต้องยืนหยัดไม่เปลี่ยนแปลง แต่นั่นหมายถึงทุกภาคส่วนเห็นพ้องต้องกัน ก็แก้ไขกันได้โดยไม่เกิดปัญหาใดๆ จัดการทุกเงื่อนไขจนลงตัวเรียบร้อย อาจใช้เวลาประมาณ 2 ปี - 3 ปี แล้วจึงกลับไปเลือกตั้งกันใหม่ และขณะนี้มีเรื่องที่กังวลใจมากที่สุด คือผู้ที่สนับสนุนรัฐบาลออกมาแสดงอาการตำหนิ ติเตียน ประณาม พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และเหล่าทัพ โดยพยายามพูดให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าทหารคิดที่จะปฏิวัติ ข้อเท็จจริงในช่วงวิกฤติมีเสียงเรียกร้องให้ทหารทำการปฏิวัติ แต่ ผบ.ทบ.ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นทหารของประชาชนไม่ได้เข้าข้างใคร การที่ทหารแก้ปัญหาครั้งนี้ควรได้รับการยกย่องชื่นชม เพราะได้เชิญภาคเอกชน นักวิชาการไประดมความคิดและปรึกษาหารือว่าควรจะหาทางออกให้บ้านเมือง ถือว่าเป็นทหารยุคใหม่ เป็นทหารประชาธิปไตย เพราะถ้าเป็นทหารยุคเก่าคงไม่ปรึกษาใครเอากำลังออกมายึดอำนาจแล้ว
นายสุเทพกล่าวว่า นอกจากนี้ ที่หนักใจกว่านั้นคือดูเหมือนเป็นกระบวนการที่จะให้รัฐบาลใช้อำนาจปลดผู้บัญชาการเหล่าทัพให้ดูสมเหตุสมผล และมีเหตุผลมากขึ้น ขอเรียนไปถึงพี่น้องประชาชนเจ้าของแผ่นดินทั้งหลายให้จับตามองความเคลื่อนไหวของขบวนการนี้ ถ้าขบวนการนี้และรัฐบาลไม่มีความชอบธรรม รวมทั้งรัฐบาลที่ไม่เป็นธรรม ไปข่มเหงรังแกผู้บัญชาการเหล่าทัพ เช่นเดียวกับ ผบ.ตร. คิดว่าคราวนี้ต้องเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่ต้องลุกขึ้นมาปกป้องข้าราชการที่เป็นข้าราชการของประชาชน เป็นหน้าที่คนไทยที่ต้องออกมาปกป้อง เมื่อถามว่ากรณีที่ 40 ส.ว.เสนอให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลาออกเพื่อให้เกิดแรงกด
ดันของรัฐบาล นายสุเทพตอบว่า ถือเป็นความคิดของนักวิชาการบางคนเคยเสนอมายังตน แต่ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา ใช้ไม่ได้กับรัฐบาลนี้ เพราะหากลาออกต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ต่อข้อถามถึงกรณีที่กลุ่ม นปก. จะปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อกดดันการพิจารณาคดียุบพรรค นายสุเทพตอบว่า คนพวกนี้เป็นคนที่ทำความผิดแล้วไม่ยอมรับการตัดสินพิพากษาของกระบวนการยุติธรรม จึงได้แสดงปฏิกิริยาตรงกันข้ามขอให้คนไทยจับตาดู จะได้เห็นธาตุแท้ของคนเหล่านี้ชัดขึ้น ยิ่งเขาทำออกมาก็ยิ่งประจานตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เชื่อว่านายกฯไม่ ห้ามกลุ่มคนเสื้อแดงออกมา เพราะนายกฯต้องอาศัยกลุ่มคนเหล่านี้ปฏิบัติการ เพื่อปูทางไปสู่เป้าหมายที่จะเอื้อประโยชน์แก่ตน และพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล เพื่อยึดครองอำนาจให้คงอยู่ยาวนานอย่างที่ต้องการ
ข่าว อุดมศักดิ์
ภาพ ธนชาติ
2 ธ.ค. 51
พรรคประชาธิปัตย์พร้อมคณะ เดินทางมาเป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลและสวดพระอภิธรรมศพ พลตำรวจตรีประดับ เกิดอินทร์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และอดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด
โดยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ทำการชุมนุมยืดเยื้อมากว่า 6 เดือนนั้น ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะยุติลงเมื่อใด เรื่องนี้แม้แต่หมอดูระดับชาติก็ให้คำตอบไม่ได้ แต่มีความหวังว่าถ้าสามารถจะเจรจาในเงื่อนไขที่เป็นไปได้กับรัฐบาล ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
ส่วนปัญหาของประเทศชาติในขณะนี้ ถ้าจะยึดหลักการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง สิ่งสำคัญก็คือต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน เพื่อยุติปัญหาทั้งปวงเปิดทางให้ประชาชนกลับบ้านเลิกการชุมนุม รัฐบาลต้องเสียสละด้วยการลาออกแล้วจัดตั้งรัฐบาลเสียใหม่ เป็นรัฐบาลในรูปแบบพิเศษที่ไม่ใช่รัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลรูปแบบพิเศษคือ ไม่ใช่เอาตัวแทนพรรคไปเป็นรัฐมนตรี แต่ให้ทุกภาคส่วนที่มีประสบการณ์มีความรู้ความสามารถเข้าเป็นรัฐมนตรีร่วมคณะ อาจคัดกรองมาจากฝ่ายราชการ นักธุรกิจ ตำรวจ ทหาร หรือแม้แต่กลุ่มซีกฝ่ายพันธมิตรฯ ก็ควรมีส่วนเข้าร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลในรูปแบบพิเศษ เป็นการเมืองที่แต่ละพรรคการเมืองคัดสรรให้เข้ามาดำรงตำแหน่ง ไม่ใช่มาจากระบบโควตาพรรคการเมืองแบบดั้งเดิม การตกลงกันในรูปแบบพิเศษแล้วดำเนินการฟื้นความเชื่อมั่นของประเทศ บอกกับคนทั้งโลกว่าปัญหาภายในประเทศเราแก้ไขกันได้ เพื่อคืนความสงบสุขและสันติให้เกิดขึ้น เชิญชวนทุกประเทศให้เชื่อมั่นและเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจของประชาชน จะต้องได้รับการบูรณาการฟื้นฟูแก้ไขอย่างเร่งด่วน ที่ผ่านมาสองนายกรัฐมนตรี สองรัฐบาลไม่ได้ทำงานทำการอะไรตามที่แถลงนโยบายไว้เลย เพราะมุ่งแต่ปัญหาการเมืองเพียงฝ่ายเดียว ราคาพืชผลการเกษตร ขาดการใสใจเหลียวแล จนทุกภาคส่วนการผลิตเสียหายยับเยิน
ส่วนการแก้ไขความแตกแยกภายในประเทศ ต้องแยกแยะหามูลเหตุของปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหา อย่าสนใจแต่เรื่องจะแก้รัฐธรรมนูญตามที่ต้องการโดยไม่ฟังเสียงประชาชน และคำนึงถึงความเสียหายที่จะตามมา การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ทำกันได้ไม่ใช่ต้องยืนหยัดไม่เปลี่ยนแปลง แต่นั่นหมายถึงทุกภาคส่วนเห็นพ้องต้องกัน ก็แก้ไขกันได้โดยไม่เกิดปัญหาใดๆ จัดการทุกเงื่อนไขจนลงตัวเรียบร้อย อาจใช้เวลาประมาณ 2 ปี - 3 ปี แล้วจึงกลับไปเลือกตั้งกันใหม่ และขณะนี้มีเรื่องที่กังวลใจมากที่สุด คือผู้ที่สนับสนุนรัฐบาลออกมาแสดงอาการตำหนิ ติเตียน ประณาม พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และเหล่าทัพ โดยพยายามพูดให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าทหารคิดที่จะปฏิวัติ ข้อเท็จจริงในช่วงวิกฤติมีเสียงเรียกร้องให้ทหารทำการปฏิวัติ แต่ ผบ.ทบ.ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นทหารของประชาชนไม่ได้เข้าข้างใคร การที่ทหารแก้ปัญหาครั้งนี้ควรได้รับการยกย่องชื่นชม เพราะได้เชิญภาคเอกชน นักวิชาการไประดมความคิดและปรึกษาหารือว่าควรจะหาทางออกให้บ้านเมือง ถือว่าเป็นทหารยุคใหม่ เป็นทหารประชาธิปไตย เพราะถ้าเป็นทหารยุคเก่าคงไม่ปรึกษาใครเอากำลังออกมายึดอำนาจแล้ว
นายสุเทพกล่าวว่า นอกจากนี้ ที่หนักใจกว่านั้นคือดูเหมือนเป็นกระบวนการที่จะให้รัฐบาลใช้อำนาจปลดผู้บัญชาการเหล่าทัพให้ดูสมเหตุสมผล และมีเหตุผลมากขึ้น ขอเรียนไปถึงพี่น้องประชาชนเจ้าของแผ่นดินทั้งหลายให้จับตามองความเคลื่อนไหวของขบวนการนี้ ถ้าขบวนการนี้และรัฐบาลไม่มีความชอบธรรม รวมทั้งรัฐบาลที่ไม่เป็นธรรม ไปข่มเหงรังแกผู้บัญชาการเหล่าทัพ เช่นเดียวกับ ผบ.ตร. คิดว่าคราวนี้ต้องเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่ต้องลุกขึ้นมาปกป้องข้าราชการที่เป็นข้าราชการของประชาชน เป็นหน้าที่คนไทยที่ต้องออกมาปกป้อง เมื่อถามว่ากรณีที่ 40 ส.ว.เสนอให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลาออกเพื่อให้เกิดแรงกด
ดันของรัฐบาล นายสุเทพตอบว่า ถือเป็นความคิดของนักวิชาการบางคนเคยเสนอมายังตน แต่ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา ใช้ไม่ได้กับรัฐบาลนี้ เพราะหากลาออกต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ต่อข้อถามถึงกรณีที่กลุ่ม นปก. จะปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อกดดันการพิจารณาคดียุบพรรค นายสุเทพตอบว่า คนพวกนี้เป็นคนที่ทำความผิดแล้วไม่ยอมรับการตัดสินพิพากษาของกระบวนการยุติธรรม จึงได้แสดงปฏิกิริยาตรงกันข้ามขอให้คนไทยจับตาดู จะได้เห็นธาตุแท้ของคนเหล่านี้ชัดขึ้น ยิ่งเขาทำออกมาก็ยิ่งประจานตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เชื่อว่านายกฯไม่ ห้ามกลุ่มคนเสื้อแดงออกมา เพราะนายกฯต้องอาศัยกลุ่มคนเหล่านี้ปฏิบัติการ เพื่อปูทางไปสู่เป้าหมายที่จะเอื้อประโยชน์แก่ตน และพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล เพื่อยึดครองอำนาจให้คงอยู่ยาวนานอย่างที่ต้องการ
ข่าว อุดมศักดิ์
ภาพ ธนชาติ
2 ธ.ค. 51
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น