ชาวนาสองตำบลร้องปลัดอาวุโสปากท่อ ขอให้ทางการเปิดจุดรับจำนำข้าวเพิ่ม สาเหตุโรงสีขาดสภาพคล่อง และไม่มีศักยภาพเพียงพอในการอบเพื่อลดความชื้นของข้าวเปลือก
ที่ว่าการอำเภอปากท่อ นายสวาท ทรัพย์สุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3
ต. บ่อกระดาน อ. ปากท่อ จ. ราชบุรี นำชาวนาใน ต.บ่อกระดาน และ ต.ป่าไก่ กว่า 200 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนาย สุทธิพงษ์ พุทธจันทรา ปลัดอาวุโสอำเภอปากท่อ เพื่อขอให้ทางอำเภอปากท่อทำการเปิดจุดรับจำนำข้าวเพิ่มจากเดิม ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่ง ขณะที่พื้นที่อำเภอปากท่อเป็นแหล่งปลูกข้าวที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดราชบุรี
นายสวาท กล่าวว่าที่ผ่านมาชาวนาจะเข้าโครงการรับจำนำข้าวกับโรงสีที่เข้าร่วมในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่ จะมีที่นำข้าวเปลือกไปขายเป็นเงินสดก็มีอยู่ไม่กี่ราย ปัญหาของการเข้าโครงการรับจำนำข้าวก็คือ ชาวนาจะได้เงินช้ามาก เพราะทางโรงสีต้องทยอยทำใบประทวนให้ ทำให้ชาวนาได้เงินล่าช้า หลายรายต้องรอนานถึง 3 เดือนกว่าจะได้เงินค่าข้าวมาใช้ นอกจากนี้ยังถูกตัดราคาในเรื่องของความชื้น เพราะโรงสีที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวนั้นมีน้อย และโรงสีก็ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำการอบ เพื่อลดความชื้นของข้าวเปลือก บางครั้งทางโรงสีต้องปิดรับจำนำข้าวเพราะข้าวเกินโควตา เป็นเรื่องที่สร้างปัญหาให้ชาวนาต้องเดือดร้อนกันมาก ต้องรีบนำข้าวเปลือกไปขายสดเพราะไม่มีที่เก็บ การขายสดเร่งด่วนก็จะได้ราคาต่างจากการรับจำนำมากกว่า 2,000 บาท
ด้วยเหตุนี้ชาวนาสองตำบลจึงต้องร้องขอต่อทางราชการให้มีการเปิดจุดรับจำนำข้าวเพิ่มขึ้นจากเดิม เพื่อให้เพียงพอที่จะรองรับต่อความต้องการของชาวนา ทางด้านปลัดอาวุโสอำเภอปากท่อก็รับปากว่าจะรีบส่งเรื่องดังกล่าวเสนอให้ทางจังหวัดได้รับทราบเพื่อให้เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะขณะนี้ชาวนากำลังจะเกี่ยวข้าวแล้ว หลังการชี้แจงของปลัดอำเภออาวุโสชาวนาต่างก็พอใจและแยกย้ายกันกลับบ้าน เพื่อคอยรับทราบการดำเนินงานของจังหวัดต่อไป
ภาพ/ข่าว ประทีป 26 พ.ย.51
ต. บ่อกระดาน อ. ปากท่อ จ. ราชบุรี นำชาวนาใน ต.บ่อกระดาน และ ต.ป่าไก่ กว่า 200 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนาย สุทธิพงษ์ พุทธจันทรา ปลัดอาวุโสอำเภอปากท่อ เพื่อขอให้ทางอำเภอปากท่อทำการเปิดจุดรับจำนำข้าวเพิ่มจากเดิม ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่ง ขณะที่พื้นที่อำเภอปากท่อเป็นแหล่งปลูกข้าวที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดราชบุรี
นายสวาท กล่าวว่าที่ผ่านมาชาวนาจะเข้าโครงการรับจำนำข้าวกับโรงสีที่เข้าร่วมในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่ จะมีที่นำข้าวเปลือกไปขายเป็นเงินสดก็มีอยู่ไม่กี่ราย ปัญหาของการเข้าโครงการรับจำนำข้าวก็คือ ชาวนาจะได้เงินช้ามาก เพราะทางโรงสีต้องทยอยทำใบประทวนให้ ทำให้ชาวนาได้เงินล่าช้า หลายรายต้องรอนานถึง 3 เดือนกว่าจะได้เงินค่าข้าวมาใช้ นอกจากนี้ยังถูกตัดราคาในเรื่องของความชื้น เพราะโรงสีที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวนั้นมีน้อย และโรงสีก็ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำการอบ เพื่อลดความชื้นของข้าวเปลือก บางครั้งทางโรงสีต้องปิดรับจำนำข้าวเพราะข้าวเกินโควตา เป็นเรื่องที่สร้างปัญหาให้ชาวนาต้องเดือดร้อนกันมาก ต้องรีบนำข้าวเปลือกไปขายสดเพราะไม่มีที่เก็บ การขายสดเร่งด่วนก็จะได้ราคาต่างจากการรับจำนำมากกว่า 2,000 บาท
ด้วยเหตุนี้ชาวนาสองตำบลจึงต้องร้องขอต่อทางราชการให้มีการเปิดจุดรับจำนำข้าวเพิ่มขึ้นจากเดิม เพื่อให้เพียงพอที่จะรองรับต่อความต้องการของชาวนา ทางด้านปลัดอาวุโสอำเภอปากท่อก็รับปากว่าจะรีบส่งเรื่องดังกล่าวเสนอให้ทางจังหวัดได้รับทราบเพื่อให้เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะขณะนี้ชาวนากำลังจะเกี่ยวข้าวแล้ว หลังการชี้แจงของปลัดอำเภออาวุโสชาวนาต่างก็พอใจและแยกย้ายกันกลับบ้าน เพื่อคอยรับทราบการดำเนินงานของจังหวัดต่อไป
ภาพ/ข่าว ประทีป 26 พ.ย.51
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น