เทศบาลตำบลหลักเมือง จัดโครงการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และคุมกำเนิดสุนัขและแมว ประจำปี 2554
ที่วัดท้ายเมือง ตำบลพงสวาย อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี นายธรรมศักดิ์ ฤทธิ์แดง นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดให้บริการ ตามโครงการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และคุมกำเนิดสุนัขและแมว ประจำปี 2554 โดยโครงการดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคอันตรายร้ายแรงของสุนัขและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด อีกทั้งยังเป็นโรคที่สามารถติดต่อจากสัตว์มาสู่คน ซึ่งจะเห็นได้ว่าโรคพิษสุนัขบ้ายังคงเป็นโรคที่อันตรายร้ายแรงและมีความสำคัญทางสาธารณสุขของชุมชนอย่างยิ่ง
ถึงแม้ว่าปัจจุบันคนจะเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าน้อยลงแต่โรคพิษสุนัขบ้าก็ยังคงเป็นโรคที่น่ากลัว ไม่สามารถรักษาได้และควรกำจัดให้หมดไป ทางเทศบาลตำบลหลักเมือง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดโครงการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และคุมกำเนิดสุนัขและแมว ประจำปี 2554 ขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขและแมวไม่ให้ติดต่อมายังคน รวมถึงเพื่อเป็นการควบคุมสุนัขและแมวไม่ให้มีการเพิ่มจำนวนมากกว่าเดิม อีกทั้งเพิ่มความรู้ความเข้าใจ ในการให้ความร่วมมือป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า
โดยกิจกรรมในครั้งนี้มีเป้าหมาย ที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขและแมว จำนวน 4900 ตัว และคุมกำเนิดสุนัขและแมว จำนวน 1800 ตัว รวมถึงประชาสัมพันธ์เชิงรุกครอบคลุม ทั้ง 14 ชุมชน ต่อไป
ถึงแม้ว่าปัจจุบันคนจะเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าน้อยลงแต่โรคพิษสุนัขบ้าก็ยังคงเป็นโรคที่น่ากลัว ไม่สามารถรักษาได้และควรกำจัดให้หมดไป ทางเทศบาลตำบลหลักเมือง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดโครงการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และคุมกำเนิดสุนัขและแมว ประจำปี 2554 ขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขและแมวไม่ให้ติดต่อมายังคน รวมถึงเพื่อเป็นการควบคุมสุนัขและแมวไม่ให้มีการเพิ่มจำนวนมากกว่าเดิม อีกทั้งเพิ่มความรู้ความเข้าใจ ในการให้ความร่วมมือป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า
โดยกิจกรรมในครั้งนี้มีเป้าหมาย ที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขและแมว จำนวน 4900 ตัว และคุมกำเนิดสุนัขและแมว จำนวน 1800 ตัว รวมถึงประชาสัมพันธ์เชิงรุกครอบคลุม ทั้ง 14 ชุมชน ต่อไป
ภาพ/ข่าว กาญจนา สิมมา
11/03/54
11/03/54
ช่วยสนับสนุน HCTV จะได้มีข่าวอย่างนี้ ให้อ่านต่อไป
ติดต่อสนับสนุน โทร 0-3231-0262
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น